ฟิลเลอร์ใต้ตา : ความลับของความอ่อนเยาว์ที่ยาวนาน
การเสริมความงามเป็นเรื่องที่มีความสำคัญสำหรับหลายๆ คนในปัจจุบัน โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการลดริ้วรอยและแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา แต่คำถามที่หลายคนมักจะสงสัยคือ ฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานไหม และ ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดีบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา พร้อมแนะนำวิธีการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร?
ฟิลเลอร์ใต้ตา หรือ Filler คือสารเติมเต็มที่ใช้ในการเสริมและปรับรูปหน้า โดยเฉพาะบริเวณใต้ตาที่เป็นจุดที่มักแสดงให้เห็นถึงอายุที่มากขึ้น ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องลึก ลดริ้วรอย และทำให้ผิวบริเวณนั้นดูเรียบเนียนมากขึ้น ฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับใต้ตาจะมีสาร Hyaluronic Acid (HYA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ ทำให้มีความปลอดภัยสูงและผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
ปัญหาใต้ตา เกิดจากสาเหตุใด?
- อายุที่เพิ่มขึ้น : เมื่ออายุมากขึ้น ผิวใต้ตาสูญเสียความยืดหยุ่นและคอลลาเจน ทำให้เกิดถุงใต้ตาและริ้วรอย รวมถึงกระดูกเบ้าตาและไขมันฝ่อตัวลงจากอายุที่เพิ่มขึ้น ยังส่งผลให้เกิดภาวะเบ้าตาลึกได้อีกด้วย
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ : การนอนดึกหรือพักผ่อนไม่พอทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี ส่งผลให้เกิดรอยคล้ำและถุงใต้ตา
- พันธุกรรม : ปัญหาใต้ตามักเป็นผลมาจากพันธุกรรม หากครอบครัวมีประวัติถุงใต้ตาหรือรอยคล้ำ คุณอาจได้รับผลกระทบเช่นกัน
- ภูมิแพ้ : สารฮีสตามีน หรือสารก่อภูมิแพ้ จะกระตุ้นหลอดเลือดที่อยู่บริเวณรอบดวงตาให้ขยายตัว ทำให้มีเลือดมาเลี้ยงบริเวณใต้ตามากขึ้น และยังกระตุ้นเม็ดสีเมลานิน ส่งผลให้ผิวใต้ตาคล้ำกว่าบริเวณอื่น
- ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง : เช่น ช่วงตั้งครรภ์ ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของเส้นเลือดใต้ผิวหนัง ซึ่งผิวใต้ตาเป็นบริเวณที่มีผิวบาง ทำให้เห็นรอยคล้ำได้ง่าย คุณแม่ตั้งครรภ์จึงอาจมีขอบตาดำกว่าปกติ
- การรับประทานอาหารและดื่มน้ำไม่เพียงพอ : การขาดสารอาหารและการดื่มน้ำน้อยทำให้ผิวใต้ตาหมองคล้ำและไม่สดใส
- การสัมผัสแสงแดดมากเกินไป : แสงแดดทำลายผิวใต้ตาที่บอบบาง ทำให้เกิดรอยคล้ำและริ้วรอยก่อนวัย
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยอะไรได้บ้าง?
1. แก้ไขเบ้าตาลึก
ภาวะเบ้าตาลึก ทำให้ดวงตาดูไม่สดใส ใบหน้าอิดโรย ดูมีอายุ การเติมเต็มผิวใต้ตาที่ดูลึก ด้วยฟิลเลอร์ จะช่วยคืนผิวใต้ตาให้กลับมาเรียบเนียน ดูอ่อนวัยอีกครั้ง
2. ลดใต้ตาคล้ำและความบวมช้ำ
ใต้ตาคล้ำและความบวมช้ำบริเวณใต้ตามักเป็นปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มผิวใต้ตา ทำให้ดวงตาดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น
3. แก้ปัญหารอยหมองคล้ำใต้ตา
ความหมองคล้ำบริเวณใต้ตาอาจทำให้คุณดูอายุเพิ่มขึ้นกว่าที่เป็นจริง ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องลึกและปรับสีผิวบริเวณใต้ตาให้ดูสว่างขึ้น ลดเลือนความหมองคล้ำได้อย่างเห็นผล
4. ลดริ้วรอยและร่องลึก
ริ้วรอยและร่องลึกบริเวณใต้ตาเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของความแก่ชรา การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเติมเต็มร่องลึกและลดริ้วรอยเหล่านี้ ทำให้ผิวดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์ขึ้น
5. ปรับรูปหน้าให้สมดุล
ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เพียงแค่ช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยปรับโครงหน้าให้ดูสมดุลและเรียบเนียนมากขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติและได้สัดส่วนที่สวยงาม
6. เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง
เมื่อปัญหาถุงใต้ตา รอยหมองคล้ำ และริ้วรอยลดลง คุณจะรู้สึกมั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเองมากขึ้น ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยให้คุณดูสดใสและมีพลังมากขึ้นในการดำเนินชีวิตประจำวัน
ฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานไหม?
หนึ่งในคำถามที่พบได้บ่อยที่สุดเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือ ฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานไหม ความจริงแล้ว ฟิลเลอร์ใต้ตามีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้ :
1. ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้
ฟิลเลอร์แต่ละชนิดมีความคงทนต่างกัน ฟิลเลอร์ที่มีส่วนประกอบหลักเป็น Hyaluronic Acid เช่น ฟิลเลอร์ Restylane และ ฟิลเลอร์ Neuramis มักมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 6 เดือนถึง 18 เดือน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ
2. ปริมาณที่ฉีดและบริเวณที่ฉีด
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดและบริเวณที่ทำการฉีดมีผลต่ออายุการใช้งาน หากฉีดในปริมาณที่เพียงพอและตรงจุด ฟิลเลอร์จะคงรูปได้นานและให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
3. การดูแลหลังการฉีดฟิลเลอร์
การดูแลผิวหลังการฉีดฟิลเลอร์เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดทับบริเวณที่ฉีดในช่วงแรก หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัดๆ และหมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำ
4. สภาพผิวและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้
สภาพผิวของแต่ละคนมีผลต่ออายุการใช้งานของฟิลเลอร์ ผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวมันมากอาจต้องการการดูแลเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ เช่น การสูบบุหรี่ หรือการดื่มแอลกอฮอล์ ก็อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าปกติ
5. ประสบการณ์และทักษะของแพทย์ผู้ฉีด
การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และทักษะในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างถูกต้องจะช่วยให้ฟิลเลอร์คงรูปได้นานขึ้นและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี?
Restylane เป็นฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดนที่ใช้เทคโนโลยี NASHA ซึ่งมีจุดเด่นในการยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเทคโนโลยี OBT มีความยืดหยุ่นสูง ใช้ในการปรับโครงสร้างผิว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมชาติ รุ่นที่แนะนำสำหรับการฉีดใต้ตา ได้แก่ :
Restylane Lidocaine : ฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่ผสมยาชาในตัว เหมาะสำหรับการแก้ปัญหาริ้วรอยระดับกลางและเติมเต็มร่องแก้มตื้น ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและเป็นธรรมชาติ
Restylane Perlane Lyft : ฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เหมาะสำหรับการฉีดใต้ตา รวมถึงการปรับรูปคางและแก้มส้ม เพื่อเพิ่มความกระชับและปรับสมดุลให้ใบหน้า
2. Neuramis (เกาหลี)
Neuramis เป็นฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลีที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาในประเทศไทย มีชื่อเสียงในการแก้ไขปัญหาริ้วรอยและเติมเต็มร่องลึก รุ่นที่แนะนำ ได้แก่ :
- Neuramis Deep และ Neuramis Deep Lidocaine : ฟิลเลอร์ทั้งสองรุ่นนี้เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยระดับปานกลาง ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์
- Neuramis Volume Lidocaine : รุ่นนี้เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องแก้มลึก ช่วยปรับรูปหน้าและแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูเต็มอิ่มและสมดุลยิ่งขึ้น
3. Juvederm (อเมริกา)
Juvederm เป็นฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกาที่ขึ้นชื่อเรื่องความยืดหยุ่นสูงและคุณภาพที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก รุ่นที่แนะนำสำหรับการฉีดใต้ตา ได้แก่ :
- Juvederm Voluma : รุ่นนี้มีเนื้อแน่นและฟูปานกลาง เหมาะสำหรับการฉีดใต้ตา ช่วยเติมเต็มร่องลึกและปรับโครงหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเรียบเนียนและเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องใช้กี่ซีซี?
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดใต้ตาจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้ปริมาณประมาณ 1 ถึง 2 ซีซี ต่อข้าง ทั้งนี้ปริมาณที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันไปตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย
- 1 ซีซี : เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่องใต้ตาตื้น และต้องการปรับปรุงเพียงเล็กน้อย
- 2 ซีซี : เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่องลึกหรือปัญหาใต้ตาลึก
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ : ตรวจสอบอย่างไรเมื่อไปฉีดที่คลินิก
การเลือกฟิลเลอร์แท้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อความปลอดภัยในการรักษา นี่คือสิ่งที่ควรตรวจสอบเมื่อไปฉีดฟิลเลอร์ที่คลินิก :
- ขอดูบรรจุภัณฑ์ : ตรวจสอบฉลากบนบรรจุภัณฑ์ว่ามีชื่อผลิตภัณฑ์, เลขที่ผลิต, วันหมดอายุ และตราสัญลักษณ์ของบริษัทผู้ผลิตอย่างชัดเจน ตรวจดูว่าไม่มีการแกะหรือดัดแปลงใดๆ
- ขอใบรับรอง : คลินิกที่ได้มาตรฐานควรมีใบรับรองฟิลเลอร์จากบริษัทผู้ผลิตหรือองค์การอาหารและยา (FDA) เพื่อยืนยันความปลอดภัย
- ตรวจหมายเลขล็อต (Lot Number) : ตรวจสอบว่าหมายเลขล็อตบนบรรจุภัณฑ์และหลอดฟิลเลอร์ตรงกัน หากไม่ตรงหรือพบข้อผิดปกติ ควรสอบถามแพทย์ทันที
- สังเกตเนื้อฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์แท้จะมีเนื้อเจลที่เนียนละเอียด ไม่มีการแยกชั้นหรือสิ่งแปลกปลอม หากเนื้อฟิลเลอร์ดูไม่ถูกต้อง ควรขอเปลี่ยนผลิตภัณฑ์
ฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม? เรื่องจริงที่คุณควรรู้
หลายคนสงสัยว่า “ฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม?” คำตอบคือไม่อันตราย หากคุณเลือกใช้ฟิลเลอร์คุณภาพสูงและฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิกที่ได้มาตรฐาน
- ฟิลเลอร์คุณภาพสูง
ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ เช่น Juvederm, Restylane, และ Neuramis ผลิตจาก Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารที่ปลอดภัย สลายได้เองตามธรรมชาติ และไม่ทิ้งสารตกค้าง - ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
แพทย์ที่มีประสบการณ์จะประเมินปัญหาและฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่เหมาะสม ลดความเสี่ยงของการเกิดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนหรือการติดเชื้อ - เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน
คลินิกที่ได้รับการรับรองจะใช้ฟิลเลอร์แท้และมีมาตรการดูแลความสะอาดในทุกขั้นตอน มั่นใจได้ว่าผลลัพธ์จะปลอดภัยและเป็นที่พึงพอใจ - ติดตามผลหลังการฉีด
คลินิกที่ดีจะติดตามผลหลังการฉีดเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม และสามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทันที
เคล็ดลับการดูแลตัวเองก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ปรึกษาแพทย์ : พูดคุยกับแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสม
- งดใช้ยาและอาหารเสริม : หลีกเลี่ยงยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน และอาหารเสริม ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
- เตรียมตัวล่วงหน้า : ดื่มน้ำมากๆ งดแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนฉีด ล้างหน้าและหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในวันฉีด
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ทำความสะอาดผิว : แพทย์จะทำความสะอาดบริเวณใต้ตาเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- วางยาชา : อาจใช้ยาชาทาเพื่อเพิ่มความสบายระหว่างการฉีด
- ฉีดฟิลเลอร์ : แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์อย่างแม่นยำและนวดปรับรูปทรงให้ดูเป็นธรรมชาติ เพื่อป้องกันฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส : หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดทับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ และหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงอย่างน้อย 3 วันหลังการฉีด เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงความร้อน : งดการทำเลเซอร์ การสัมผัสความร้อน เช่น ซาวน่า อย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังการฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ : งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 วันหลังการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันอาการบวม
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก : งดกิจกรรมที่ใช้แรงมากภายใน 4 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนที่
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ : ดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตรหลังการฉีด จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ในสภาพดีและยืดอายุการใช้งาน
- ทาครีมกันแดด : ป้องกันรอยคล้ำและยืดอายุฟิลเลอร์ด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง
- ติดตามผลกับแพทย์ : นัดพบแพทย์เพื่อตรวจผลลัพธ์และแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ที่ Blossom Clinic ดีอย่างไร?
1. ทีมแพทย์ผู้ดูแลด้านผิวหนังโดยตรง
ที่ Blossom Clinic เรามีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ยาวนานในด้านการฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉพาะบริเวณใต้ตาซึ่งเป็นพื้นที่ที่บอบบาง แพทย์ของเรามีความรู้และทักษะในการประเมินและฉีดฟิลเลอร์ให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด
2. ใช้ฟิลเลอร์คุณภาพสูงที่ได้รับการรับรอง
เราเลือกใช้ฟิลเลอร์คุณภาพสูงจากแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก เช่น Restylane และ Juvederm ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ฟิลเลอร์เหล่านี้ปลอดภัย สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
3. บริการที่ใส่ใจและเป็นส่วนตัว
Blossom Clinic ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้า เรามีการให้คำปรึกษาและประเมินสภาพผิวอย่างละเอียดก่อนการฉีด เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุด เราออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล และติดตามผลหลังการรักษาอย่างต่อเนื่อง
4. บรรยากาศคลินิกที่ผ่อนคลายและปลอดภัย
คลินิกของเรามีบรรยากาศที่สะอาด ปลอดภัย และเป็นกันเอง เพื่อให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและมั่นใจในการรับบริการทุกขั้นตอน การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการรักษาที่มีคุณภาพสูงสุด
5. รีวิวและความพึงพอใจจากลูกค้าจริง
Blossom Clinic ได้รับการยกย่องจากลูกค้าจำนวนมากที่เคยใช้บริการจริง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รีวิวจากผู้ใช้บริการของเราแสดงถึงความพึงพอใจในผลลัพธ์และการดูแลที่ได้รับ คุณสามารถมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับบริการที่ดีที่สุดจากทีมงานที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด
ฟิลเลอร์ใต้ตาที่เหมาะสม : เคล็ดลับสู่ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัยและยาวนาน
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมในการลดริ้วรอยและแก้ปัญหาถุงใต้ตา โดยฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูง สามารถให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยาวนานได้ หากดูแลอย่างเหมาะสม ฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถอยู่ได้นานถึง 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ การดูแลหลังการฉีด และสภาพผิวของแต่ละบุคคล การเลือกใช้บริการกับคลินิกที่มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ฟิลเลอร์แท้คุณภาพสูง จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
เปิดประสบการณ์ใหม่ให้ดวงตาสดใสและอ่อนเยาว์อีกครั้ง ที่ Blossom Clinic
หากคุณกำลังค้นหา คลินิกเสริมความงามใกล้ฉัน (beauty clinic near me) เพื่อฟื้นฟูความสดใสและอ่อนเยาว์ให้ดวงตา Blossom Clinic ที่ คลินิกนครปฐม และ คลินิกศาลายา พร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสากล ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมดูแลคุณด้วยฟิลเลอร์แท้คุณภาพสูงที่ได้รับการรับรองจากทั่วโลก ไม่ว่าคุณต้องการลดริ้วรอย แก้ปัญหาถุงใต้ตา หรือปรับโครงหน้าให้สมดุล เรามีทางออกที่เหมาะสมที่สุด เพราะการเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ดีจะช่วยให้คุณคงความอ่อนเยาว์และมั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเองได้ในระยะยาวปัจจุบัน Blossom Clinic มี 3 สาขา ได้แก่ สาขานครปฐม ใกล้กับพระปฐมเจดีย์ เพียง 400 เมตร และใกล้เซ็นทรัลนครปฐม ที่เพิ่งเปิดใหม่ เดินทางเพียง 7 นาที, สาขาศาลายา ตรงข้าม มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา และสาขาสเตเดี้ยมวัน เดินทางง่ายใกล้ BTS สนามกีฬาแห่งชาติ