ฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
ปรับรูปหน้าด้วย FILLER ร่วมกับวิธีอื่นๆ
รู้จักกับการปรับรูปหน้าด้วย Filler
ที่ Blossom Clinic มีเทคนิคเฉพาะเพื่อปรับรูปหน้าด้วย Filler โดยใช้วิธีอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุด
ฟิลเลอร์คืออะไร?
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มที่ช่วยเสริมให้ชั้นผิวด้านในและใต้ผิวหนังมีความฟู ยกกระชับ อิ่มน้ำมากยิ่งขึ้นโดยตัวสารเติมเต็มที่ใช้มีชื่อว่า Hyaluronic Acid ( HYA) เป็นสารเติมเต็มที่เลียนแบบสารในร่างกาย ซึ่งการเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์จะช่วยทำให้ใบหน้าดูเด็กลง และอ่อนวัยมากยิ่งขึ้น
ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ เติมฟิลเลอร์?
เมื่อคนเราอายุมากขึ้น เหล่าโปรตีนและคอลลาเจนในผิวหนังจะเสื่อมสภาพลง ทำให้ผิวไม่เด้งฟูเหมือนเดิม เกิดการยุบตัวลงและทำให้เกิดความเหี่ยวย่น ริ้วรอย ร่องลึกตามส่วนต่างๆ ของใบหน้า ผิวพรรณดูไม่อ่อนเยาว์แบบที่เคยเป็น การเติมฟิลเลอร์จึงถูกนำมาใช้ในการเสริมความงามเพื่อช่วยเติมเต็มริ้วรอยบนใบหน้าและร่องลึกต่างๆ ให้ดูตื้น ผิวดูอ่อนเยาว์ลงเช่น การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก รวมถึงยังช่วยในการปรับแก้รูปหน้าให้ดูสมดุลได้รูปสวยงามยิ่งขึ้นด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ และการเติมฟิลเลอร์ขมับ นอกจากการจะเป็นคลินิกฉีดฟิลเลอร์แล้ว ที่ Blossom Clinic สาขากรุงเทพฯ และนครปฐม ยังมีวิธีอื่น ๆ สำหรับปรับรูปหน้าของผู้ใช้บริการในแต่ละเคสให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด
ถือเป็นเทคนิคพิเศษเฉพาะที่ Blossom Clinic เท่านั้น ดังนั้นผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้เลยว่าที่ Blossom Clinic คุณจะได้รับทั้งความปลอดภัย และให้คุณสวยอย่างมั่นใจกลับไปอย่างแน่นอน
ฟิลเลอร์มีกี่ประเภท?
ฟิลเลอร์มีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่
- ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary filler) สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ อยู่ได้นาน 4-6 เดือน มีความปลอดภัยสูงและไม่มีสารคงค้างหลงเหลือ มีความใกล้เคียงกับสารในร่างกาย
- ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary filler) สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ อยู่ได้นาน 4-6 เดือน มีความปลอดภัยสูงและไม่มีสารคงค้างหลงเหลือ มีความใกล้เคียงกับสารในร่างกาย
- ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent filler) เป็นประเภทสารเติมเต็มซิลิโคน หรือพาราฟิน สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ อาจมีผลข้างเคียงได้ในระยะยาว และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง
ฟิลเลอร์แท้ต้องมีอะไรบ้าง?
- ควรเป็นฟิลเลอร์ประเภทที่อยู่ได้ชั่วคราวและสามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ
- มีเลขทะเบียน และรับรองจาก อย.ของประเทศไทย
- ฉลากข้างกล่องที่มีชื่อของผู้นำเข้าอย่างถูกต้อง
- มีตัวเลขล็อต Lot no. พร้อมวันหมดอายุระบุอย่างชัดเจนบนกล่อง
- เลข Lot no. บนกล่องและซองด้านในควรปรากฏตรงกัน
- ในบางยี่ห้อจะมีบาร์โค้ดชัดเจนที่ด้านข้างตัวกล่อง
ฟิลเลอร์ที่ บลอสซั้ม คลินิก เลือกใช้?
#BeautyTipsbyDoctor
ประเภทของฟิลเลอร์ที่ บลอสซั้ม คลินิกเลือกใช้เป็นประเภทที่สามารถอยู่ได้ชั่วคราว สามารถสลายได้เองตามเวลาและการดูแลของคนไข้ ซึ่งฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อที่บลอสซั้ม คลินิกของเราเลือกใช้เป็นฟิลเลอร์ที่สามารถตรวจสอบได้จริง มีเลขล็อตและใบกำกับผลิตภัณฑ์บอกชัดเจน เพื่อความสบายใจของคนไข้ทุกท่าน พร้อมทั้งยังมีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ ปรับรูปหน้าที่ได้รับรางวัลมากมายค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม?
ฟิลเลอร์ที่บลอสซั้ม
คลินิกเลือกใช้เป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยสูงด้วยการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประเทศไทยว่าสามารถให้บริการฉีดฟิลเลอร์ หรือเติมแต่งเพื่อความสวยงามได้ ซึ่งฟิลเลอร์ชนิดดังกล่าวต้องเป็นแบบชนิดชั่วคราว คือ สารไฮยาลูรอนิก แอซิด ( Hyaluronic Acid ) เนื่องจากเป็นชนิดที่มีความใกล้เคียงกับสารในร่างกายและสามารถสลายตัวเองได้ 100% ไม่มีสารตกค้างอันตรายต่อร่างกาย และควรคำนึงถึงความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ฉีดว่ามีประสบการณ์ และ ความเข้าใจเรื่องการปรับรูปหน้าและผิวหนังอย่างเชี่ยวชาญ รักษาปัญหาของคนไข้ได้อย่างแม่นยำและตรงจุด
#BeautyTipsbyDoctor
#BeautyTipsbyDoctor
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน?
สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยว่าการฉีดฟิลเลอร์ตามจุดต่าง ๆ อย่างฟิลเลอร์คางจะอยู่ได้นานแค่ไหน คำตอบก็คือประมาณ 9-12 เดือนหลังฉีด ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง หากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงระวังในเรื่องของความร้อนต่างๆ ที่อาจสัมผัสบริเวณใบหน้าโดยตรงแล้ว ฟิลเลอร์ก็จะอยู่ได้ยาวนานขึ้น หากฟิลเลอร์เริ่มสลายตัวลง ก็สามารถกลับมาฉีดเพิ่มเติมในส่วนต่างๆ ตามที่ต้องการได้ในภายหลัง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง
การเติมฟิลเลอร์จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด โดยจะมีผลลัพธ์ 100% ประมาณวันที่ 4-5 หลังฉีด เนื่องจากฟิลเลอร์และกล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะเข้าที่ดีแล้ว
ฟิลเลอร์เป็นสารที่ช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปใยชั้นผิวหนัง และเพิ่มปริมารเนื้อเยื่อเพื่อทดแทนคอลลาเจนให้ล่องที่ลึกกลับมาและเรียบเนียนเท่ากับบริเวณโดยรอบเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา ขมับ หน้าผาก จมูก ปาก และคาง ให้ดูเต็มและเต่งตึงมากขึ้น
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์
- ไม่ควรออกกำลังกายหนักภายใน 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้เกิดรอยแดงในบริเวณที่เติมฟิลเลอร์ได้
- ไม่ควรจับ บีบ นวดหรือคลึงในบริเวณที่เติมฟิลเลอร์ เพราะอาจมีผลต่อการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยาไปยังตำแหน่งอื่นได้ ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบหรือฉีดฟิลเลอร์คางก็ต้องทำตามข้อห้ามเหล่านี้
- ควรดื่มน้ำ 8-10 แก้ว หรือ 2 ลิตร/วัน โดยเฉพาะ 4 วันแรกหลังเติมฟิลเลอร์ เพราะฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ การดื่มน้ำจะช่วยทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานและช่วยให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- งดทำการอบไอน้ำ อบซาวน่า ทำเลเซอร์และทำ RF หลังเติมฟิลเลอร์ช่วง 2 สัปดาห์แรก เพราะการได้รับความร้อนเฉพาะจุดเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อฟิลเลอร์ได้ ส่วนระดับความร้อนที่สามารถโดนได้คือลมจากไดร์เป่าผมและแสงแดดที่ไม่แรงจนเกินไป
ปริมาณในการเติมฟิลเลอร์
(ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล คุณหมอประเมินให้)
เติมหน้าผาก เพิ่มหน้าผากนูนสวย รับกับใบหน้า ใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 3-8 CC
เติมขมับบุ๋ม ขมับตอบ แก้ปัญหาหน้าโทรม ใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC
เติมใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ ร่องน้ำตา ที่ทำให้ดูไม่สดใส ใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC
เติมโหนกแก้ม เพิ่มแก้มส้ม สำหรับคนที่หน้าไม่มีมิติ ใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 2-4 CC
เติมแก้มตอบ แก้ปัญหาหน้าดูผอม ให้กลับมาดูมีชีวิตชีวา ใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-3 CC
เติมร่องแก้มลึก เติมให้ดูตื้นขึ้น ลดริ้วรอยลึก ทำให้ใบหน้าดูสดใส ใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC
เติมคางสั้น คางตัด ทำให้คางยาวขึ้น หน้าดูเรียว ใบหน้าได้รูปมากมากขึ้น ใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC
เติมริมฝีปาก แก้ปัญหาปากบางให้ดูอวบอิ่ม ใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC