
ผมร่วง ผมบาง เป็นปัญหาผมที่พบได้บ่อยในคนวัยทำงาน หรือชาวออฟฟิศ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เพราะช่วงอายุ มีผลต่อปัญหาผมร่วง ผมบาง โดยวัยแรกเกิดถึงอายุ 30 ปีนั้น จะเป็นช่วงอายุที่เส้นผมมีการเจริญเติบโตได้ดีมากกว่า 90% ดังนั้นวัยทำงานที่เฉลี่ยอายุประมาณ 25-50 ปี จะเข้าสู่ระยะที่เส้นผมเจริญเติบโตได้ลดลงและเกือบคงที่แล้ว หรือบางรายอาจเริ่มมีปัญหาผมร่วง ผมบางตั้งแต่อายุ 20 ปีเป็นต้นไป สาเหตุของภาวะผมร่วง ผมบางนอกจากอายุแล้วยังอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ ความเครียด พฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือปัจจัยอื่นๆ ซึ่ง Blossom Clinic มีโปรแกรมดูแลรักษาเส้นผมที่มีประสิทธิภาพสูง ชื่อว่า PRP Anti-Hair Loss ช่วย แก้ผมร่วงผมบาง ได้อย่างตรงจุด โดยไม่มีผลข้างเคียง ด้วยเทคนิคการใช้ส่วนประกอบจากเลือดของคนไข้เอง ในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยพื้นฟูสภาพผม เพิ่มความหนาและความแข็งแรงของเส้นผม กู้ผมเสีย แก้ผมร่วง ผมบาง ให้ผมกลับมาสวยงามและสุขภาพดีอีกครั้ง นอกจากการฉีด PRP ผม แล้ว Blossom Clinic ยังมีโปรแกรมดูแลเส้นผมอื่นๆ ที่สามารถแก้ปัญหาผมได้อย่างครอบคลุม ก่อนอื่นมาดูกันว่าปัญหาผมที่มักเกิดกับคนวัยทำงาน มีอะไรบ้าง?
ปัญหาผมของคนวัยทำงาน
ผมร่วง ผมบาง
ปัญหาผมร่วง ผมบาง ผมร่วงเยอะมาก จนสางออกมา มีแต่ผมติดมือ เป็นปัญหาผมที่หลายคนกังวล และสงสัยว่าผมร่วงเกิดจากอะไร? สาเหตุของผมร่วงเกิดจากหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ หรือภาวะเครียด โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่มักมีความเครียดจากการทำงาน รวมถึงเริ่มมีปัญหาผมร่วง ผมบางตามวัย นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการดูแลผมไม่ถูกวิธี หรือใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมไม่เหมาะสม ก็อาจทำให้ปัญหาผมร่วง ผมบางรุนแรงขึ้นได้เช่นกัน
ผมร่วงมากแค่ไหน เข้าข่ายผิดปกติ? โดยปกติเส้นผมของคนเรา สามารถหลุดร่วงได้ประมาณ 50-100 เส้น หรืออาจร่วงได้มากถึง 200 เส้น ในวันที่สระผม ดังนั้นหากมีผมร่วงระหว่างวัน ครั้งละมากกว่า 100 เส้นนั้น ถือว่าผิดปกติ หรือหากผมหลุดร่วงเกินกว่า 200 เส้นในวันที่สระผม หรือมีผมร่วงเป็นหย่อม ขนาดเท่าเหรียญสิบ ก็ถือเป็นภาวะผมร่วงเช่นกัน
ผมเสีย ผมอ่อนแอ ผมขาดง่าย
ผมเสีย ผมอ่อนแอ ขาดง่าย มักเกิดในช่วงที่มีการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน เพราะร่างกายขาดสารอาหารจำเป็นสำหรับการหล่อเลี้ยงเส้นผม ทำให้เส้นผมเปราะ ผมแห้ง เส้นผมขาดง่าย
จริงๆ แล้วผมเสียเป็นยังไง? สังเกตง่ายๆ ว่าสภาพผมเสีย จะมีลักษณะเส้นผมแห้งสาก หากลองลูบผมย้อนขึ้น แล้วผมไม่ลื่น หรือลองดึงผมออกมาสักเส้น หากเส้นผมขาดออกจากกันง่าย ไม่มีความยืดหยุ่น อาจเป็นลักษณะผมเสีย แล้วผมเสียแก้ยังไง? ในเบื้องต้น ควรหลีกเลี่ยงการกัดสีผม หรือทำสีผมบ่อยๆ เพราะน้ำยาเคมีจะเข้าไปทำลายโปรตีนในเส้นผม ทำให้ผมแห้ง ผมหยาบกระด้าง ขาดความชุ่มชื้น ผมเสีย ขาดหลุดร่วงได้ง่าย นอกจากนี้การสระผมบ่อยเกินไปก็อาจทำลายน้ำมันในเส้นผม หรือการหวีผมมากเกินจำเป็น ก็อาจทำให้ผมร่วงและแตกปลายได้ง่าย
ผมมัน ผมเหม็นง่าย
ภาวะผมเหม็นง่าย (Smelly Hair Syndrome) เป็นสภาวะหนังศีรษะและเส้นผมมันง่าย หรือผมเกิดความมันได้มากกว่าเส้นผมของคนทั่วไป รวมถึงมีกลิ่นเหม็นไวกว่าปกติ แม้จะสระผมแล้วก็ยังคงได้กลิ่นเหม็น อาจเกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันมาก หนังศีรษะผลิตต่อมเหงื่อมากกว่าปกติ ฮอร์โมนผิดปกติ เป็นโรคเซ็บเดิร์ม หรือแม้แต่การมีผมเส้นเล็ก ก็อาจเป็นสาเหตุของการเกิดภาวะผมเหม็นง่ายได้
หลายคนพบปัญหาผมมันเร็วมาก สระผมไม่นานผมก็กลับมามันอีกครั้ง ผมมัน เกิดจากต่อมไขมันบนหนังศีรษะ ที่ทำหน้าที่ผลิตน้ำมันธรรมชาติที่เรียกว่า ซีบัม (Sebum) ซึ่งสร้างความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะ ผลิตน้ำมันมากเกินไป สระผมบ่อยเกินไป การอยู่ในที่อับชื้น หรือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผม ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมันทั้งสิ้น
หนังศีรษะแห้ง มีรังแค
หนังศีรษะแห้งจนเกิดรังแค เป็นสะเก็ดสีขาวบริเวณโคนผมหรือเส้นผม อาจมีอาการคันและผมร่วงร่วมด้วย หากเกาก็จะยิ่งทำให้สะเก็ดหลุดลอกมากขึ้น รังแคเกิดจากความไม่สมดุลของจุลินทรีย์บนหนังศีรษะ การผลิตน้ำมันมากผิดปกติของต่อมไขมัน รวมถึงความเครียดก็กระตุ้นในเกิดรังแคได้เช่นกัน
สภาพหนังศีรษะแห้ง ผมเสีย ผมอ่อนแอ ผมมัน อาจนำไปสู่ภาวะผมร่วงที่คนส่วนใหญ่เป็นกังวล เพราะอาจทำให้เกิดภาวะผมบาง และศีรษะล้านในอนาคตได้
ผมร่วงเกิดจากอะไร? สาเหตุที่ทำให้ผมร่วง ผมบาง มากกว่าปกติ
พันธุกรรม
ผมบางจากพันธุกรรม อาจหลีกเลี่ยงได้ยาก เพราะมียีนบางตัวส่งผลต่อการเจริญเติบโตและกำหนดขนาดของเส้นผม ดังนั้นชาวออฟฟิศที่มีประวัติครอบครัวที่มีปัญหาผมร่วงและผมบาง ก็มีโอกาสสูงที่จะประสบปัญหาแบบเดียวกัน นอกจากนี้ปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุ เพศ และฮอร์โมนก็อาจเป็นสาเหตุของปัญหาผมร่วงผมบางได้เช่นกัน
ฮอร์โมน DHT
ฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) เป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วง สร้างมาจากฮอร์โมนเพศชาย หรือ เทสโทสเตอโรน (Testosterone) ระดับฮอร์โมน DHT ที่สูงขึ้น ทำให้วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมผิดเพี้ยน เพราะฮอร์โมน DHT นี้จะเข้าไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นผม ทำให้ผมไม่งอกใหม่ ผมเก่าเส้นเล็กลง ผมบางลงเรื่อยๆ และมีปัญหาผมร่วงเยอะมาก สำหรับผู้หญิงเองก็มีฮอร์โมน DHT นี้อยู่เช่นกัน แต่มีในปริมาณน้อยกว่า ทำให้บางสถานการณ์ที่ผู้หญิงเกิดภาวะฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล เช่น ช่วงตั้งครรภ์และหลังคลอด วัยหมดประจำเดือน ก็จะทำให้เกิดปัญหาผมร่วงเยอะได้เช่นกัน
อายุ
อายุเป็นปัจจัยหลักของปัญหาผมร่วง ผมบาง เพราะผมจะเจริญเติบโตได้ดีถึง 90% ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงอายุประมาณ 30 ปีเท่านั้น แต่เมื่ออายุมากขึ้นประมาณช่วงวัย 30-50 ปี เส้นผมจะเจริญเติบโตได้ช้าลง วงจรชีวิตของเส้นผมจะเริ่มสั้นลง ทําให้ผมร่วงมากขึ้น ส่งผลให้ผมบางลง
ความเครียด
การสูญเสียผมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในกลุ่มคนวัยทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับความเครียดในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ฮอร์โมนและระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ และการขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพของเส้นผม รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ ทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบางได้ง่าย
สารเคมีสะสมตกค้างบนหนังศีรษะ
คนวัยทำงาน ชื่นชอบแฟชั่นและมักดูแลภาพลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างดี ด้วยการเปลี่ยนสีผมเป็นประจำ ซึ่งในยาย้อมผม มีส่วนผสมของ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ( Hydrogen Peroxide ) ใช้ในการเร่งการติดสีผม แต่จะทำลายเส้นผม ทำให้เกิดการระคายเคืองหนังศีรษะ ผมแข็งกระด้าง แห้งเสีย เปราะขาดง่าย และแอมโมเนีย (Ammonia) มีกลิ่นฉุนแสบจมูก เป็นตัวช่วยให้ผมติดสีได้ดีขึ้น แต่มีฤทธิ์เป็นด่าง ซึ่งจะกัดเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ผมเสีย ผมร่วง รากผมอ่อนแอ นอกจากนี้ในแชมพู และเจลแต่งผม ก็มีส่วนผสมของสารเคมีที่ส่งผลให้เกิดอาการผมร่วงได้เช่นกัน หากทำความสะอาดไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้เกิดการสะสมตกค้างของสารเคมีบนหนังศีรษะได้เช่นกัน
แอร์ทำให้ผมแห้งเสีย
การใช้งานเครื่องปรับอากาศตลอดเวลาของชาวออฟฟิศ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพผมได้ แม้ว่าแอร์จะช่วยให้เรารู้สึกเย็นสบายขึ้นในหน้าร้อน แต่ความแห้งของอากาศจากแอร์กลับทำให้คุณภาพเส้นผมลดลง เพราะเวลาอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศเย็นและแห้ง หนังศีรษะจะขับไขมันออกมา เพื่อรักษาความชุ่มชื้น ทำให้เมื่ออยู่ในห้องแอร์นานๆ ช่วงโคนผมจะมันมาก ส่งผลให้ผมร่วงมากขึ้นและอาจเกิดปัญหาผมบางในระยะยาวได้ นอกจากนี้เมื่อต่อมไขมันบนหนังศีรษะทำงานต่อเนื่องก็จะเริ่มล้าและหยุดขับไขมัน ทำให้ความชุ่มชื้นไม่ไปถึงปลายผม จนเกิดปัญหาผมแห้งเสีย
มัดผมแน่นเกินไป
การมัดผมแน่นเกินไป ทำให้เกิดการเหนี่ยวรั้งหนังศีรษะ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่ดี สารอาหารจะถูกส่งไปยังรากผมได้น้อยลง เป็นสาเหตุให้เส้นผมเปราะบาง ผมขาด และหลุดร่วงได้ง่าย
ภาวะฝุ่น PM2.5
ฝุ่น PM 2.5 เป็นภาวะมลพิษทางอากาศที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย สุขภาพผิวและเส้นผมอย่างมาก เพราะฝุ่น PM2.5 ทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระ ซึ่งทำลายเซลล์ผิวหนัง เป็นอันตรายต่อเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้เกิดปัญหารังแคเรื้อรัง รากผมอ่อนแอ ผมร่วง และผมบางได้
สระผมผิดวิธี
การสระผมผิดวิธี อย่างการขยี้แชมพูเฉพาะด้านบนของผม ไม่ลงไปถึงหนังศีรษะ หรือการใช้ผ้าห่อผมหลังสระไว้นานๆ โดยไม่รีบเป่าผมให้แห้ง ก็อาจเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้หนังศีรษะอักเสบ จนเกิดปัญหาผมร่วงตามมาได้
โปรแกรม PRP ผม คืออะไร?
โปรแกรม PRP Anti-Hair Loss หรือการทํา PRP ผม (Platelet Rich Plasma) เป็นเทคนิคการแก้ปัญหาผมบางให้กลับมาหนา โดยไม่ต้องปลูกผม แต่เป็นการใช้พลาสมาและเกล็ดเลือดเข้มข้นจากร่างกายของคนไข้เอง ที่เตรียมโดยการนำเลือดมาปั่นตกตะกอน จนได้สารอาหารที่จำเป็นต่อเส้นผมมาฉีดบริเวณหนังศีรษะ ช่วยซ่อมแซมเซลล์ (Growth Factor) ให้เซลล์รากผมกลับมาแข็งแรงขึ้น พร้อมช่วยบำรุงเซลล์รากผม ช่วยให้เส้นผมมีขนาดใหญ่ขึ้นและมีความหนาแน่นมากขึ้น ลดปัญหาผมร่วง ผมบางได้อย่างตรงจุด
โปรแกรม PRP ผม ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
- ปัญหาผมร่วงมากเกินปกติ
- ผมบางจนเห็นหนังศีรษะ
- เส้นผมอ่อนแอ ผมขาดง่าย
- รากผมไม่แข็งแรง เส้นผมมีขนาดเล็ก จนเกิดปัญหาผมร่วง ผมบาง
- ป้องกันภาวะศีรษะล้าน จากพันธุกรรม และฮอร์โมน
ควรฉีด PRP ผม บ่อยแค่ไหน? มีข้อจำกัดเรื่องปริมาณในการฉีดหรือไม่?
ในช่วงแรก คุณหมอแนะนำการทํา PRP ผมเดือนละ 1 ครั้ง ต่อเนื่องกัน 3 เดือน โดยคนไข้สามารถสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่รับบริการ โดย Blossom Clinic ไม่มีข้อจำกัดในการฉีด เพราะการทํา PRP ผม สามารถทำได้ทุก 2 สัปดาห์โดยไม่ส่งผลข้างเคียง และมีความปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกาย ซึ่งในแต่ละครั้งจะมีการประเมินและวางแผนอย่างละเอียดโดยแพทย์เฉพาะทาง เพื่อกำหนดปริมาณการฉีดในแต่ละครั้งที่เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้แต่ละเคสมากที่สุด
วิธีดูแลเส้นผม ให้กลับมาแข็งแรง ผมไม่มัน ผมร่วงน้อยลง
รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นโปรตีน สังกะสีและธาตุเหล็ก
ผมร่วงเยอะมากต้องกินอะไร? คุณหมอแนะนำให้รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ป้องกันร่างกายขาดสารอาหาร โดยเน้นโปรตีน สังกะสีและธาตุเหล็ก
- โปรตีนอย่างเคราติน (Keratin) เป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างเส้นผม จึงควรรับประทานโปรตีนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงและสุขภาพดี ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม
- สังกะสี (Zinc) เป็นแร่ธาตุที่มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผมและเล็บ ทำให้ผมแข็งแรง งอกใหม่ได้ดีขึ้น และยังช่วยควบคุมการทำงานของต่อมไขมันบนหนังศีรษะ หากไขมันที่ขับออกมามีความสมดุล จะช่วยลดความเสี่ยงของการภาวะผมร่วงได้
- ธาตุเหล็ก (Iron) ช่วยกระตุ้นให้เลือดไปเลี้ยงเส้นผมและหนังศีรษะได้ดี การรับประทานอาหารที่ประกอบด้วยธาตุเหล็กเป็นประจำ จะช่วยให้เส้นผมแข็งแรง ไม่ลีบแบน และไม่หลุดร่วงได้ง่าย
ปรับพฤติกรรม สระผมให้ถูกวิธี
การสระผมที่ถูกวิธี ขั้นแรกเริ่มจากการล้างหนังศีรษะให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า นาน 30 วินาทีขึ้นไป เพื่อชำระล้างสิ่้งสกปรกที่สะสมบนหนังศีรษะและเส้นผม จากนั้นบีบแชมพูลงบนฝ่ามือ (ไม่บีบแชมพูลงบนศีรษะโดยตรง เพราะการขยี้แชมพูกับเส้นผม จะทำลายเคราตินที่อยู่ชั้นนอกของเส้นผม ทำให้ผมขาด หลุดร่วงได้ง่าย) ตีจนเกิดฟองแล้วค่อยชโลมและนวดวนให้ทั่วศีรษะ ไม่เกาหนังศีรษะแรงๆ หลังจากนั้นล้างฟองออกจนเกลี้ยง โดยใช้วิธีก้มลง ล้างจากท้ายทอย ลดการตกค้างของแชมพูบริเวณท้ายทอย ซึ่้งเป็นบริเวณที่มักมีการสะสมตกค้างมากที่สุด หลังจากสระผมเสร็จเรียบร้อย ควรเป่าผมให้แห้งภายใน 5 นาที เพราะความเปียกชื้น ก่อให้เกิดแบคทีเรียบนหนังศีรษะ จนอาจทำให้หนังศีรษะอักเสบ นำไปสู่ภาวะผมร่วงได้
หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มซิลิโคน
ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะที่มีซิลิโคนเป็นส่วนประกอบ โดยซิลิโคนที่นิยมใช้ เช่น Dimethicone ช่วยให้ผมเรียบลื่นและเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผม หรือ Amodimethicone ที่มักพบในครีมนวด เมื่อใช้ไปนานๆ สารซิลิโคนกลุ่มนี้จะสะสมและอุดตันในรูเส้นผม ทำให้หนังศีรษะขับของเสียและดูดซึมสารอาหารได้น้อยลง จนทำให้ผมเสีย เส้นผมลีบแบน และหนังศีรษะเป็นมันเยิ้ม
ซึ่งการทำหัตถการทรีตเม้นต์ ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ พร้อมเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ช่วยผลักสารสกัดให้เข้าสู่หนังศีรษะได้อย่างล้ำลึกยิ่งขึ้น อย่าง โปรแกรม Customized Hair Treatment จะช่วยฟื้นการทำงานของรากผม ฟื้นฟูเส้นผมและหนังศีรษะที่เสื่อมสภาพลงจากอายุที่มากขึ้น มลภาวะ และสารเคมีต่างๆ รวมถึงความตึงเครียดในชีวิตประจำวัน ช่วยบำรุงให้ผมและหนังศีรษะมีสุขภาพดีขึ้นได้อย่างตรงจุด
โปรแกรมทรีตเมนต์ ฟื้นฟูปัญหาเส้นผม (Hair Treatment) บำรุงผม และหนังศีรษะ ด้วยการทำสปาผมสูตรลับจากธรรมชาติ ซึ่งคิดค้นและพัฒนาสูตรโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเส้นผมของ Blossom Clinic เพื่อตอบโจทย์ทุกกลุ่มปัญหาเส้นผม สามารถลดปัญหาผมร่วง ผมบาง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นศีรษะล้าน คนที่มีลักษณะผมมันง่าย แล้วอยากทราบว่าผมมัน แก้ยังไง? โปรแกรมนี้ คือคำตอบ เพราะ Customized Hair Treatment ช่วยลดปัญหาผมมัน หนังศีรษะแห้ง และลดการเกิดรังแค รวมถึงนวดกระตุ้นการไหลเวียนเลือด กระตุ้นรากผม เรียกได้ว่า Customized Hair Treatment โปรแกรมเดียว ผ่อนคลาย สบายทั่วหนังศีรษะและช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดีขึ้นด้วย
Customized Hair Treatment ทรีตเมนต์สูตรเฉพาะบำรุงผม หนังศีรษะสบาย คลายปัญหาผม
กระตุ้นรากผม แก้ผมร่วงผมบาง ด้วยโปรแกรม PRP
เติมอาหารและวิตามินผม แก้ผมร่วงผมบาง ป้องกันภาวะศีรษะล้าน โดยการกระตุ้น Growth Factor บริเวณหนังศีรษะ ฟื้นฟูเซลล์รากผมให้กลับแข็งแรง ด้วยโปรแกรม PRP Anti-Hair Loss บอกลาปัญหาผมบางแสกกลาง ผมเว้าลึกข้างหน้า ไรผมลึกรูปตัว M คืนความมั่นใจ ด้วยวิธีที่ปลอดภัยสูง ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
ทำ PRP ที่ไหนได้บ้าง?
คลินิกรักษาผมร่วง หรือ คลินิกรักษาผมร่วง ใกล้ฉัน แนะนำให้แวะ Blossom Clinic มีบริการทํา PRP ผม โดยแพทย์เฉพาะทาง
ความพิเศษของการทํา PRP ผม ที่ Blossom Clinic
- ทุกเคสจะได้รับการประเมินและวางแผนการดูแล โดยแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและเส้นผม
- ประเมินปัญหาผมอย่างละเอียดลงลึกถึงรากผม ด้วยโปรแกรมตรวจสภาพเส้นผม Dermoscopy เทคโนโลยีกล้องส่องขยายใหม่ล่าสุด ที่ช่วยวิเคราะห์ปัญหาเส้นผม ร่วมกับการวางแผนการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง
- ใช้เทคโนโลยีเครื่องปั่นสารสกัด PRP ที่ได้มาตรฐาน
- ใช้ Tube หลอดสกัดพิเศษ นำเข้าจากประเทศเกาหลี ทำให้ได้พลาสมาเข้มข้นกว่าทั่วไปถึง 9 เท่า
- ใช้เครื่อง Vital Injector 2 ช่วยกระจายสารสกัด PRP ได้ทั่วถึง ในระดับความลึก และปริมาตรที่เท่าๆ กัน ทำให้รากผมไม่ได้รับความเสียหายและได้รับสารอาหารเต็มที่
- เครื่องมือที่ใช้ในการทำหัตถการได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล CE, US FDA และ Korea FDA
- ได้รับการจดสิทธิบัตร สำหรับการแยก PRP บริสุทธิ์ที่มีความเข้มข้นสูง
ฉีด PRP ผม ราคาคุ้มค่า ที่ Blossom Clinic สามารถรับบริการได้ถึง 3 สาขา ใกล้สาขาไหนไปที่นั่นได้เลย
Blossom Clinic Stadium One บลอสซั้มคลินิก สาขาสเตเดี้ยมวัน
- Call: 02-460-9210 กด 2
- Map: https://goo.gl/maps/SPyRJbpCxfH5NtUr9
Blossom Clinic Nakhonpathom บลอสซั้มคลินิก สาขานครปฐม (คลินิก นครปฐม)
- Call: 02-460-9210 กด 3
- Map: https://maps.app.goo.gl/kWuqGp4mthi12E657
Blossom Clinic Salaya บลอสซั้มคลินิก สาขาศาลายา (คลินิก ศาลายา)
- Call: 02-460-9210 กด 4
- Map: https://goo.gl/maps/bUw5df2g9oASZQk76