ใครที่กำลังมีปัญหารอยลึกบริเวณร่องแก้ม การทำ ฟิลเลอร์ ร่องแก้ม อาจเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าของคุณ โดยวิธีนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย รวมถึงสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ
อย่างไรก็ตามฟิลเลอร์ ร่องแก้มเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีผิวบอบบางและมีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา ถ้าใครมีแพลนจะฉีดฟิลเลอร์ ร่องแก้ม แล้วกำลังเสิร์ชหา คลินิกเสริมความงามใกล้ฉัน หรือ คลินิกผิวหนังใกล้ฉัน (beauty clinic near me) วันนี้ Blossom Clinic คลินิกที่บริการดูแลความงามและแก้ปัญหาผิวอย่างครอบคลุม ทั้งรักษาสิว ทำเลเซอร์ Pico Laser ปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ รวมทั้ง Botox โดยแพทย์เฉพาะทาง จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ “ฟิลเลอร์ ร่องแก้ม” พร้อมข้อมูลทุกอย่างที่คุณควรทราบก่อนตัดสินใจทำ!
ร่องแก้มลึก เกิดจากอะไร?
ร่องแก้ม (Nasolabial Fold) คือ ริ้วรอยหรือเส้นพับที่เกิดขึ้นบริเวณใต้ปีกจมูกไปจนถึงมุมปาก สามารถสังเกตเห็นได้ชัดเมื่อมีการแสดงอารมณ์ทางสีหน้า หากมีปัญหานี้ในระยะแรกๆ ร่องแก้มจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนเมื่อยิ้มหรือหัวเราะเท่านั้น แต่ในผู้ที่ปล่อยปัญหาไว้เป็นเวลานาน ไม่ทำการรักษา จะสามารถเห็นร่องแก้มได้อย่างชัดเจนแม้ไม่ได้แสดงสีหน้า
ปัญหานี้สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่จะสังเกตเห็นได้ชัดขึ้นเมื่ออายุเริ่มเข้าสู่วัย 30 มีสาเหตุมาจากผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับ หากมีปัญหานี้ก่อนวัย 30 อาจนำมาสู่ปัญหาหน้าแก่ก่อนวัยได้ ส่วนสาเหตุของการเกิดร่องแก้มลึกมีหลายสาเหตุ ดังนี้
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวอาจค่อยๆ เสื่อมสภาพลง ถึงแม้ปกติแล้วสารเหล่านี้จะเกิดขึ้นใหม่ตามธรรมชาติ แต่เมื่ออายุมากขึ้นกระบวนการซ่อมแซมผิวจะทำงานช้าลง ร่วมกับโครงสร้างของกระดูกโหนกแก้มที่อาจเริ่มทรุดตัวลง ทำให้ผิวบริเวณหน้าแก้มหย่อนคล้อย จนเกิดเป็นร่องแก้มขึ้น
- การสัมผัสแสงแดดจัดต่อเนื่องเป็นเวลานาน ในแสงแดดจะมีรังสีอัลตราไวโอเลตที่มีอนุภาคสามารถเข้าไปยังผิวได้ลึกถึงผิวชั้นลึก ส่งผลให้คอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนังถูกทำลาย นอกจากนี้แสงแดดยังทำให้เกิดอนุมูลอิสระภายในผิว ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เพิ่มโอกาสที่จะเกิดผิวหย่อนคล้อยขึ้นไปอีกขั้น
- การสูบบุหรี่ ความร้อนจากบุหรี่ รวมถึงการใช้กล้ามเนื้อบริเวณปากและแก้มเพื่อคาบบุหรี่เอาไว้ จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นทำงานหนักและเกิดร่องแก้มลึกได้มากขึ้น นอกจากนี้สารเคมีในบุหรี่อย่างน้ำมันทาร์ (Tar) ยังเป็นสารอนุมูลอิสระมีฤทธิ์ในการทำลายความชุ่มชื้นรวมถึงคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว ใบหน้าจึงหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
- การนอนดึกเป็นประจำ อาจทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดร่องแก้มลึกได้ เนื่องจากช่วงเที่ยงคืนถึงตีสองร่างกายจะหลั่งสารเมลาโทนิน (Melatonin) ออกมาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ หากไม่ได้พักผ่อนในเวลานี้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะเป็นการสะสมปัญหาผิวและทำให้ผิวไม่ได้รับการฟื้นฟู
- การดูแลผิวอย่างผิดวิธี อย่างการเช็ดเครื่องสำอางด้วยการถูใบหน้าแรงๆ เป็นประจำอาจทำให้กล้ามเนื้อถูกดึงซ้ำๆ และเพิ่มโอกาสในการเกิดผิวหย่อนคล้อยได้ นอกจากนี้การขาดการบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ยังอาจทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและขาดความยืดหยุ่น เมื่อแสดงสีหน้ามากๆ ผิวจึงไม่คงรูปเช่นเดิม
- การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่มีการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เพราะเมื่อน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นผิวหนังจะถูกขยายตัวออก เมื่อน้ำหนักลดลงผิวหนังจะคืนสู่สภาพเดิมได้ยาก ทำให้ผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ และเกิดปัญหาร่องแก้มลึก
นอกจากปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้นแล้วยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดร่องแก้มได้ เช่น เส้นเอ็นที่ช่วยยกพยุงใบหน้า (Facial Ligament) ให้เต่งตึง เสื่อมสภาพลงตามวัย การขาดสารอาหารประเภทโปรตีน รวมถึงการนอนตะแคงบ่อยๆ
ฉีด ฟิลเลอร์ ร่องแก้ม ดีอย่างไร?
การฉีดฟิลเลอร์ นับเป็นวิธีการรักษาปัญหาร่องแก้มที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากที่สุด ทำได้โดยการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในชั้นผิว โดยในฟิลเลอร์จะมีสารไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เมื่อตัวยาไปจับตัวกับน้ำก็จะพองตัวขึ้นมาจนมีลักษณะคล้ายเจล ทำให้ผิวบริเวณร่องแก้มดูตื้นขึ้น
นอกจากสารไฮยาลูรอนิกแอซิดจะช่วยเติมเต็มผิวบริเวณที่มีปัญหาได้แล้ว ยังมีส่วนช่วยในการกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ขึ้น ผิวหน้าจึงดูเรียบเนียน เต่งตึง และยืดหยุ่นมากขึ้น เหมาะที่จะใช้ในการรักษาผิวหย่อนคล้อยหรือร่องแก้มลึกที่เกิดจากกระดูกยุบตัวหรือผิวที่ไขมันบนใบหน้าลดลง
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ ร่องแก้มอีกอย่างหนึ่ง คือ เป็นหัตถการที่หลังทำไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที และหลังฉีดผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 9-12 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี?
การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ ร่องแก้ม ควรเข้าไปปรึกษาแพทย์พร้อมกับแจ้งงบประมาณของตนเอง เพื่อให้แพทย์ประเมินปัญหาผิวและเลือกใช้ยี่ห้อรวมถึงปริมาณที่เหมาะสมในการฉีด
การฉีดฟิลเลอร์ ร่องแก้มสามารถเลือกใช้ได้ทั้งฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแน่นและเนื้อนิ่มขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด เช่น ฟิลเลอร์เนื้อแน่นจะถูกฉีดชิดกับกระดูกเพื่อใช้ฟิลเลอร์แทนกระดูกที่ยุบตัวลงไป ในขณะที่ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มจะถูกฉีดลงบริเวณผิวชั้นตื้นเพื่อให้ผิวด้านบนดูสม่ำเสมอ เรียบเนียน ร่องแก้มดูจางลง
ปัจจุบันมี Filler หลายยี่ห้อ หลายรุ่น ที่มักนำมาใช้ในการรักษาปัญหาร่องแก้ม โดยแต่ละตัวจะมีส่วนผสมและเนื้อของ Filler ที่แตกต่างกัน ดังนี้
- Juvederm ฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา เนื้อ Filler มีความยืดหยุ่นสูง โดยรุ่นที่เหมาะกับการเติมเต็มร่องแก้มลึก คือ Juvederm Voluma Filler ที่มีเนื้อแน่นและฟูในระดับปานกลาง ช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดออกมาเป็นธรรมชาติ และฟิลเลอร์ Juvederm Volux Filler เนื้อแข็งที่เหมาะกับการฉีดเพิ่มเสริมชั้นกระดูก
- Restylane ฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดนที่ใช้ NASHA Technology ทำให้ Filler ยี่ห้อนี้มีคุณสมบัติเด่นในการยกกระชับ โดยรุ่นที่เหมาะกับการเติมเต็มร่องแก้มลึก มีดังนี้
- ฟิลเลอร์ Restylane Refyne เป็นเนื้อเจล ยืดหยุ่น ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย เติมเต็มริ้วรอยเล็กๆ เหมาะกับฉีดบริเวณร่องแก้มและมุมปาก
- ฟิลเลอร์ Restylane Lidocaine เนื้อแข็ง ใช้แก้ปัญหาริ้วรอยระดับกลาง เก็บรายละเอียดในผิวชั้นลึก เหมาะกับฉีดแก้ไขร่องแก้มตื้นๆ และฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งทั้งฟิลเลอร์ Restylane Refyne และ Restylane Lidocaine 2 รุ่นนี้ผสมยาชามาในตัวฟิลเลอร์เลย
- ฟิลเลอร์ Restylane Perlane Lyft ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง เหมาะกับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คาง และฉีดแก้มส้ม
- Neuramis ฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลี ปัจจุบันได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศไทย 3 รุ่น และทั้ง 3 รุ่นสามารถใช้แก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้ โดย Neuramis Deep และ Neuramis Deep Lidocaine จะเหมาะกับการเติมเต็มริ้วรอยระดับปานกลาง ส่วน Neuramis Volume Lidocaine จะเหมาะกับการเติมเต็มร่องแก้มลึกบริเวณข้างจมูก
- Belotero ฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดน เป็นรุ่นที่นิยมนำมาใช้ในการแก้ปัญหาร่องแก้ม โดยรุ่นที่แนะนำคือรุ่น Intense เหมาะกับการแก้ปัญหาร่องแก้มลึกที่เกิดขึ้นตามช่วงวัย
ฉีดฟิลเลอร์ ร่องแก้มต้องใช้กี่ซีซี?
ปริมาณ Filler ที่ใช้ในการแก้ปัญหาร่องแก้มขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความลึกของร่องแก้ม ขนาดของใบหน้า รวมถึงประเภทของ Filler ที่เลือกใช้ แต่ส่วนมากการแก้ปัญหาร่องแก้มด้วยฟิลเลอร์ มักจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-3 ซีซี (0.5-1.5 CC ต่อ 1 ข้าง)
อย่างไรก็ตามในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปและมีปัญหาร่องแก้มลึกมากๆ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 4-5 ซีซี หรือฉีดฟิลเลอร์ร่วมกับการทำหัตถการอื่นๆ เพื่อยกกระชับใบหน้าร่วมด้วย
ฉีดฟิลเลอร์ ร่องแก้มอันตรายไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ ร่องแก้มเป็นหัตถการที่ปลอดภัยหากเข้ารับบริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐานและดูแลโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ
นอกจากนี้ส่วนประกอบสำคัญในฟิลเลอร์หรือสารไฮยาลูรอนิก ยังเป็นสารที่ร่างกายสามารถผลิตและสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงทำให้การฉีดฟิลเลอร์มีโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงหรืออาการแพ้ได้น้อยกว่าการฉีดสารสังเคราะห์ชนิดอื่นๆ
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ ร่องแก้ม
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ผู้เข้ารับบริการจะต้องเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาผิวเสียก่อน โดยแพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวและให้คำแนะนำเกี่ยวกับบริเวณที่ควรฉีด ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสม และปริมาณที่ต้องใช้ หลังจากปรึกษาปัญหาแล้ว ก่อนฉีดฟิลเลอร์ก็ควรเตรียมตัวให้พร้อมดังนี้
- งดรับประทานยาที่มีฤทธิ์ในการต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน (Aspirin) ยาแก้ปวดกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-SteroidalAnti-Inflammatory Drugs: NSAIDs) ยาวาร์ฟาริน (Warfarin) 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดแผลบริเวณที่ฉีด
- งดรับประทานยาอาหารเสริม อย่างวิตามินอี น้ำมันพริมโรส และสารสกัดจากแปะก๊วย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ
- งดใช้ยากลุ่มที่มีสารวิตามินเอ เช่น สารเรติน-เอ (Retin-A) สารเรตินอยด์ (Retinoid) กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) และครีมลดเลือนริ้วรอยทุกชนิดเป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ เนื่องจากยากลุ่มนี้อาจทำให้ผิวบางลง และเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำหลังรับบริการได้
- งดเสริมความงามหรือรับบริการเกี่ยวกับผิวที่อาจทำให้ผิวเกิดความระคายเคือง เช่น โกนขน เลเซอร์ขน เลเซอร์ผิว สครับผิว และนวดหน้า ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนรับบริการ
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ออกกำลังกายหนักๆ หรือซาวน่า อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมงก่อนเข้ารับบริการ เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะขาดน้ำ ฟิลเลอร์จึงจะจับตัวกับน้ำได้น้อยลงและพองตัวได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ ร่องแก้ม
โดยทั่วไปแล้วหลังฉีดฟิลเลอร์จะไม่ทำให้เกิดปัญหาใดๆ และสามารถฟื้นตัวได้ในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงช่วยให้ฟิลเลอร์ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยหลังฉีดฟิลเลอร์ ร่องแก้ม Blossom Clinic แนะนำให้ดูแลตนเองดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวบริเวณที่เพิ่งได้รับการฉีดฟิลเลอร์เป็นเวลา 1-2 วัน เนื่องจากเป็นช่วงที่ฟิลเลอร์กำลังเซตตัว หากสัมผัสบ่อยๆ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนและเซ็ตตัวได้ยาก รวมถึงผิวบริเวณนั้นอาจช้ำได้
- หลีกเลี่ยงการนอนราบในช่วง 2-3 วันแรกหลังทำ พยายามนอนให้ศีรษะอยู่สูงกว่าหน้าอกและไม่ควรนอนตะแคง เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ยังไม่ได้เซตตัวเคลื่อนไปในบริเวณที่ไม่ต้องการทำการรักษา
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจทำให้แผลเสี่ยงติดเชื้อ รวมถึงหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัดและอาหารหมักดอง เพราะอาจกระตุ้นให้บริเวณที่ฉีดเกิดการอักเสบได้
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า หรือการทำอาหารหน้าเตาเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้ช้าและสลายตัวได้ไวขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2-3 วันแรกหลังรับบริการ เนื่องจากสารในบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ฟิลเลอร์จับตัวกับน้ำได้น้อยลงและพองตัวได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
- ควรดื่มน้ำให้มากๆ วันละ 1.5-2 ลิตร หรือประมาณ 8-12 แก้วต่อวัน ในช่วง 4 วันแรก เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ฟิลเลอร์ดูดซับน้ำได้มากขึ้น
นอกจากนี้หลังฉีดฟิลเลอร์อาจเกิดความรู้สึกปวดหรืออาการคันบริเวณที่ฉีดได้เล็กน้อย นับเป็นอาการปกติที่มักจะหายไปเองเมื่อผ่านไปประมาณ 12-24 ชั่วโมง
ฉีดฟิลเลอร์ ร่องแก้ม กี่วันเห็นผล?
การฉีดฟิลเลอร์ ร่องแก้มสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ แต่ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก ผิวอาจจะยังมีอาการบวมจากยาชาเล็กน้อย ส่วนในช่วง 3-7 วันก็อาจจะยังมีอาการชาจากฟิลเลอร์อยู่ ทำให้เราสามารถเห็นผลลัพธ์ที่แท้จริงได้ในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังรับบริการ และจะคงผลลัพธ์ไว้ได้นาน 9-12 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมถึงการดูแลผิวหลังรับบริการด้วย
รีวิวฟิลเลอร์ ร่องแก้ม และฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ Blossom Clinic
ฉีดฟิลเลอร์ ร่องแก้ม ที่ไหนดี?
เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์จำเป็นที่จะต้องฉีดให้ถูกชั้นผิว เพื่อลดโอกาสที่ Filler จะเข้าไปอุดตันในเส้นเลือดจนทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา ดังนั้นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือความน่าเชื่อถือของคลินิก เพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำการรักษาด้วย Filler ปลอมหรือ Filler หิ้ว รวมถึงควรหาข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์ผู้ให้บริการอย่างละเอียด
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ ร่องแก้มที่ไหนดี? ให้ Blossom Clinic เป็นหนึ่งในทางเลือก เพราะเราเลือกใช้ Filler ของแท้ ตรวจสอบได้ ทุกเคสให้บริการโดยแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง และคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เข้ารับบริการเป็นหลัก
หากยังไม่มั่นใจว่าควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน? ต้องใช้ปริมาณกี่ซีซี? สามารถติดต่อเข้ามาที่ Blossom Clinic เพื่อให้คุณหมอประเมินสภาพผิวและแนะนำหัตถการหรือตัวยาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคลได้เลย โดยสามารถติดต่อได้ที่ไลน์ @blossomclinic หรือเข้ามาปรึกษาที่คลินิก
ปัจจุบัน Blossom Clinic มี 3 สาขา ได้แก่ สาขานครปฐม ใกล้กับพระปฐมเจดีย์ เพียง 400 เมตร และใกล้เซ็นทรัลนครปฐม ที่เพิ่งเปิดใหม่ เดินทางเพียง 7 นาที, สาขาศาลายา ตรงข้าม มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา และสาขาสเตเดี้ยมวัน เดินทางง่ายใกล้ BTS สนามกีฬาแห่งชาติ