
รวมหัตถการแนะนำ ทำแล้วหน้าเด็ก ที่คนวัย 40+ ต้องห้ามพลาด!
‘หน้าแก่ก่อนวัย’ แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้เกิดกับตัวเอง เพราะใครๆ ก็อยาก ‘หน้าเด็ก’ ไปตลอด แต่เมื่ออายุมากขึ้น ก็อาจทำให้หลีกเลี่ยงปัญหาหน้าแก่หรือผิวแก่ได้ยาก Blossom Clinic คลินิกความงามที่ดูแลผิวหน้าและปรับรูปหน้าให้กับผู้ใช้บริการมายาวนานนับสิบปี มีทีมแพทย์ที่มีความชำนาญด้านการดูแลผิวและปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ ไม่อยากให้มีใครหรือสาวๆ คนไหนพ่ายแพ้ต่อกาลเวลา จึงขอรวบรวมโปรแกรมย้อนวัยผิวหน้า ให้ดูเด็กลง ที่แพทย์ผิวหนังแนะนำว่าควรมาทำก่อนถึงวัย 40+ มาดูกันว่ามีโปรแกรมไหนที่น่าสนใจบ้าง?
หน้าแก่ก่อนวัย เกิดจากอะไร?
หน้าแก่ก่อนวัย เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอายุที่เพิ่มขึ้น รังสี UV จากแสงแดด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ การทานของหวาน ดื่มน้ำน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอลลาเจนผิวที่ลดลงตามวัย เริ่มจากอายุ 20 ปี ผิวจะเกิดการสูญเสียคอลลาเจนปีละ 1-2% และเมื่ออายุเข้าสู่ช่วง 40-45 ปี ผิวจะเสียคอลลาเจนไปกว่า 1 ใน 4 จากทั้งหมดแล้ว คอลลาเจนจึงเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะผิวแก่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พออายุประมาณ 40+ ผิวจะเกิดการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อและเซลล์ผิว ทำให้เกิดผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีริ้วรอยเหี่ยวย่น และดูแก่กว่าวัย
หัตถารแนะนำ ทำแล้วหน้าเด็ก ควรทำก่อนวัย 40+
Ultraformer III
Ultraformer III คืออะไร?
Ultraformer III คือ เครื่องยกกระชับหน้า และสลายไขมันใต้ชั้นผิว ใช้ในการยกกระชับ ปรับหน้าเรียว ลดความหย่อนคล้อย ลดไขมัน ลดริ้วรอย และช่วยให้หน้าเด็กลง โดยไม่ต้องใช้เข็มและไม่ต้องผ่าตัด แต่ใช้เทคโนโลยีคลื่นอัลตร้าซาวด์ ที่มีความเข้มข้นสูง ส่งผ่านพลังงานในรูปแบบ Micro & Macro Focused Ultrasound (MMFU) ลงสู่ใต้ผิวหนังในทุกระดับชั้นผิว ทั้งชั้นผิวหนังแท้ส่วนบน ชั้นหนังแท้ส่วนลึก และชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน (SMAS) การทำ Ultraformer III ไม่ทำให้เกิดรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ส่งผลกระทบต่อผิวโดยรอบ และมีความปลอดภัยสูง
Ultraformer III ช่วยให้หน้าเด็กได้ยังไง?
Ultraformer III ช่วยยกกระชับผิว สลายไขมัน และกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึงขึ้น โดยใช้พลังงาน 2 รูปแบบ Micro & Macro Focused Ultrasound (MMFU) เพื่อการรักษาปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม ทั้งยกกระชับผิวชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการศัลยกรรมดึงหน้า โดยการปล่อยพลังงานความร้อนลงสู่ใต้ชั้นผิว ให้เนื้อเยื่อผิวเกิดการหดตัว ผิวบริเวณที่ทำหัตถการ จะเกิดความตึงกระชับ ดูเรียบขึ้น ลดปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ตรงจุด นอกจากนี้ Ultraformer III ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ให้ผิวแข็งแรงขึ้น ผิวหน้าดูเด็กลง
Ultraformer III มีหัวยิงกี่แบบ? แก้ปัญหาผิวชั้นไหนได้บ้าง?
- หัวยิงขนาด 2.0 mm
ใช้ทำหัตถการยกกระชับผิวชั้นบน (Superficial Dermis) หรือผิวหนังชั้นตื้น ซึ่งก็คือ ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) และชั้นหนังแท้ (Dermis) ช่วยลดริ้วรอยทั่วใบหน้า เช่น ริ้วรอยหน้าผาก รอยย่นตรงหัวคิ้ว ริ้วรอยใต้ตา ลดร่องแก้ม และยกมุมปาก รวมถึงช่วยยกคิ้ว และยกหางตา ให้ดวงตาดูสดใสขึ้นได้ด้วย - หัวยิงขนาด 3.0 mm
ใช้ทำหัตถการบริเวณผิวชั้นไขมัน (Subcutaneous Fat) หรือผิวหนังชั้นลึก ช่วยสลายเซลลูไลท์ ลดไขมัน และช่วยลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ยกกระชับผิวหน้าให้เต่งตึง กระตุ้นคอลลาเจนบริเวณร่องแก้ม และร่องน้ำหมาก ให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยได้ - หัวยิงขนาด 4.5 mm
ใช้ทำหัตถการบริเวณผิวชั้น SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) เป็นชั้นผิวที่ศัลยแพทย์ใช้ในการทำศัลยกรรมดึงหน้า ยกกระชับกรอบหน้า และลำคอ สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งบริเวณแก้ม เหนียง กรอบหน้า และปรับรูปหน้าให้เรียว V-Shape ขึ้นได้ - หัวยิงขนาด 6.0 mm
ใช้ในการสลายไขมันในผิวหนังชั้นลึก ช่วยลดไขมันใต้ผิว เช่น ไขมันตามร่างกาย ต้นแขน ช่วยลดสัดส่วน กำจัดเซลลูไลท์ และกระตุ้นคอลลาเจนผิวให้รูปร่างกระชับ ได้สัดส่วนมากขึ้น
Ultraformer III ควรทำกี่ช็อต
- ลดริ้วรอย ใช้ประมาณ 100-120 Shots
- ลดร่องแก้ม ใช้ประมาณ 100-120 Shots
- กระตุ้นคอลลาเจน ใช้ประมาณ 100-120 Shots
- รอบดวงตา ใช้ประมาณ 100-150 shots
- ลดเหนียง แก้ม ใช้ประมาณ 100-150 Shots
- หน้าผาก ใช้ประมาณ 100-200 shots
- ใต้คาง ใช้ประมาณ 150-300 shots
- หน้าแก้ม 2 ข้าง ใช้ประมาณ 300-500 shots
- ทั่วใบหน้า ใช้ประมาณ 400-500 shots
จำนวน Shots ด้านบนเป็นค่าโดยประมาณที่ใช้รักษาในแต่ละบริเวณผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้คุณหมอแนะนำให้เข้ามาปรึกษาและวิเคราะห์ปัญหาผิวหน้าโดยแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง ที่ Blossom Clinic
Ultraformer III ข้อห้าม และข้อควรปฏิบัติ มีอะไรบ้าง?
- หลีกเลี่ยงการออกแดดจัด เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวให้ดียิ่งขึ้น และควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
- หมั่นทา Moisturizer เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นประจำ
- งดการทำเลเซอร์ หรือหัตถการที่มีความร้อน เช่น การอบซาวน่า หลังทำ 4 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วง 3 วันแรกหลังทำ
- หากมีความรู้สึกระบม ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้เล็กน้อยหลังทำ สามารถทานยาแก้ปวด เพื่อบรรเทาอาการได้
รีวิว Ultraformer III ผิวกระชับ ปรับหน้าเรียวเล็ก ดูเด็กลง ที่ Blossom Clinic
Ultraformer III ราคาเท่าไหร่?
ติดตามราคาโปรโมชั่น ของโปรแกรม Ultraformer III ราคาดี สุดคุ้มค่า ที่หน้า Promotions ของ Blossom Clinic ได้ทุกเดือน
ULTRAFORMER III คืออะไร? เหมาะกับใคร? จบปัญหาผิวหย่อนคล้อย ร่องแก้ม เหนียงได้จริงไหม?
Sculptra
Sculptra คืออะไร?
Sculptra คือ โปรแกรมฟื้นฟูผิว ย้อนวัยผิวหน้าให้ดูเด็กลง เพิ่มความแน่น กระชับ เนียนเรียบ ดูอ่อนกว่าวัย เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของกลุ่ม Collagen Biostimulator ที่เพิ่มคอลลาเจนสู่ผิวมากกว่า 66.5% ซึ่งใช้หลักการกระตุ้นคอลลาเจน ด้วยการฉีดอนุภาค Poly-L-Lactic acid (PLLA) ที่ทำหน้าที่เพิ่มไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) หรือเซลล์ต้นกำเนิดของคอลลาเจนลงสู่ผิว ช่วยกระตุ้น Collagen Type 1 (คอลลาเจน Type 1) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวมีความแข็งแรง ผิวแน่น อิ่มฟู ช่วยชะลอริ้วรอยร่องลึก ผิวหน้าจะแก่ช้าลงเป็นสิบๆ ปี และดูอ่อนวัยลงอย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนานถึง 25 เดือนเลยทีเดียว
รวมข้อดี Sculptra ย้อนวัยผิวหน้าเด็ก
- กระตุ้นการสร้าง Collagen Type 1 ในชั้นผิวกว่า 66.5% หลังฉีดครบ 90 วัน
- ลดริ้วรอย ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ
- ผิวยืดหยุ่น ผิวแน่นฟูดูเนียน อ่อนกว่าวัย
- ยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย ให้ผิวเรียบกระชับ
- ฟื้นฟูโครงสร้างผิว ให้ผิวเต่งตึง ในระยะยาวกว่า 2 ปี
- หลังทำ ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
Sculptra vs Radiesse แตกต่างกันอย่างไร?
สิ่งที่เหมือนกันของ Sculptra vs Radiesse
- ตัวยาของทั้งคู่เป็น Collagen Biostimulator
- ใช้ฉีดลงสู่ชั้นใต้ผิว เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสติน
- สามารถย่อยสลายได้หมด
สิ่งที่ต่างระหว่าง Sculptra vs Radiesse
- องค์ประกอบแตกต่าง เพราะ Sculptra ใช้อนุภาคของ Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ขณะที่ Radiesse ใช้ส่วนประกอบหลักของ CaHA (Calcium Hydroxylapatite) ในการสร้างคอลลาเจน
- กลไกการออกฤทธิ์แตกต่าง ในขณะที่ Sculptra กระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้ส่งสัญญาณไปยังเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ทำให้เกิดการรวมตัวของเส้นใยคอลลาเจนจำนวนมาก แต่ Radiesse จะจับกับ Fibroblast โดยตรง
- ตำแหน่งที่ฉีด Sculptra ใช้ฉีดในบริเวณขมับ แก้ม หน้าแก้ม และกรอบหน้า เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวเด้ง หน้าดูเด็กลงได้ดี ในขณะที่ Radiesse ใช้ฉีดบริเวณแก้ม ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องคาง กับบริเวณมือได้
- จำนวนการใช้งาน Sculptra ใช้ปริมาณ 1-2 ขวดต่อครั้ง ในขณะที่ Radiesse ใช้ 1-3 หลอดต่อครั้ง
- ผลลัพธ์ Sculptra อยู่ได้ยาวนาน 25 เดือน ในขณะที่ Radiesse อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
ทำไมฉีด Sculptra ต้องนวด?
หลังฉีด Sculptra ควรนวดบริเวณที่ฉีด ด้วยเทคนิค Triple 5 Massage เพื่อช่วยให้ยากระจายตัวได้ทั่วใบหน้า ทำให้ผลลัพธ์ของการทำ Sculptra ดียิ่งขึ้น โดยนวดยกกระชับติดต่อกัน 5 วัน – วันละ 5 ครั้ง – ครั้งละ 5 นาที ขั้นตอนการนวด สามารถทำได้ตามนี้เลย
- Step 1 ใช้นิ้วโป้งกดนวดขมับทั้งสองข้าง แล้วใช้กำปั้นนวดจากหน้าผากออกไปทางขมับด้านข้าง
- Step 2 ใช้ข้อนิ้วแนบบริเวณใต้โหนกแก้ม แล้วค่อยๆ กดนวดออกไปด้านข้างแก้ม
- Step 3 ใช้อุ้งมือกดข้างแก้ม แล้วค่อยๆ นวดไล่จากด้านล่างขึ้นด้านบนโหนกแก้ม
- Step 4 ใช้ข้อนิ้วชี้แนบตรงคาง แล้วค่อยๆ กดนวดขึ้นตามแนวกราม
รีวิว Sculptra กระตุ้นคอลลาเจน หน้าเด้ง ผิวเด็กลง ที่ Blossom Clinic
Sculptra ราคาเท่าไหร่?
ติดตามราคาโปรโมชั่น ของโปรแกรม Sculptra ราคาดี สุดคุ้มค่า ที่หน้า Promotions ของ Blossom Clinic ได้ทุกเดือน
Sculptra คืออะไร? Collagen Type 1 จำเป็นต่อผิวอย่างไร?
ฉีดโบลดริ้วรอย
ฉีดโบลดริ้วรอย คืออะไร?
การทำหัตถการย้อนวัย ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าที่เป็นที่นิยมมาก เพราะเห็นผลชัดเจนและปลอดภัย โดยใช้ Botulinum toxin A หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ B0T0X เป็นโปรตีนที่สกัดจากแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว เมื่อใช้ฉีดบริเวณริ้วรอย จึงช่วยลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะใช้ลดริ้วรอยแล้ว ยังใช้ลดโหนกแก้ม ลดกราม ปรับรูปหน้าเรียว ทำให้ใบหน้าได้สัดส่วน และดูหน้าเด็กมากขึ้น
ฉีดโบลดริ้วรอย มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร?
ข้อดี
- ริ้วรอยตื้นและจางลง ผิวเรียบเนียนขึ้น
- หน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ
- ผลลัพธ์ชัดเจนและเห็นผลเร็ว
- ไม่ต้องเตรียมตัวก่อนทำ ไม่ต้องพักฟื้น
- ป้องกันริ้วรอยในอนาคต และป้องกันการเกิดร่องลึกได้
ข้อเสีย
- ผลที่ได้จากการฉีดลดริ้วรอย จะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน จึงต้องฉีดซ้ำ เพื่อคงผลลัพธ์ของความอ่อนเยาว์เอาไว้อย่างต่อเนื่อง
- ควรรับบริการฉีดโบ โดยแพทย์ที่มีความชำนาญด้านผิวหนังโดยตรง และควรใช้ B0T0X แท้เท่านั้น เพราะการใช้โบในปริมาณไม่เหมาะสม ฉีดบ่อยเกินไป หรือใช้โบปลอม ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้ไม่เห็นผล และยังอาจเกิดอาการดื้อโบได้ด้วย
FILLER กับ B0T0X แบบไหนดีกว่ากัน?
- B0T0X ใช้สำหรับลดเลือนริ้วรอย ชะลอรอยตีนกา พร้อมเก็บมุมกรอบหน้าให้เล็กลงได้ ช่วยแก้ไข ลดริ้วรอยบริเวณต่างๆ บนใบหน้าที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ เช่น ริ้วรอยหางตา หรือรอยตีนกา รอยย่นบนหน้าผาก รอยย่นหว่างคิ้ว และยังใช้ฉีดเพื่อปรับรูปหน้าได้ด้วย
- FILLER ใช้สำหรับเติมเต็มบริเวณต่างๆ ให้ผิวอิ่มฟู ดูเติมเต็มมากยิ่งขึ้น แก้ปัญหาที่เกิดจากโครงสร้างผิวและโครงสร้างกระดูกที่เปลี่ยนไป เช่น ปัญหาร่องแก้ม ใต้ตาลึก ขมับตอบ ริมฝีปากเหี่ยวย่น และยังสามารถปรับรูปหน้าได้ด้วย เช่น ทำฟิลเลอร์คาง เป็นต้น
ฉีดโบ กี่วันเห็นผล?
- โบลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวหน้าเนียนเรียบ ดูหน้าเด็ก สดใสขึ้น
- เห็นผลลัพธ์เต็มที่ ใช้เวลาประมาณ 14 วัน
- โบลดกราม หน้าเรียววีเชฟ
- เห็นผลลัพธ์เต็มที่ ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน
- โบลิฟหน้า กรอบหน้าชัด
- เห็นผลลัพธ์เต็มที่ ใช้เวลาประมาณ 7 วัน
- โบรักแร้ ลดเหงื่อ ลดกลิ่นกาย
- เห็นผลลัพธ์เต็มที่ ใช้เวลาประมาณ 14 วัน
รีวิว ฉีดโบลดริ้วรอย หน้าเด็กลง ที่ Blossom Clinic
ฉีดโบลดริ้วรอย ราคาเท่าไหร่?
ติดตามราคาโปรโมชั่น ของโปรแกรมฉีดโบลดริ้วรอย ราคาดี สุดคุ้มค่า ที่หน้า Promotions ของ Blossom Clinic ได้ทุกเดือน
การฉีดโบ (BOTULINUM TOXIN)
คืออะไร? ทำไมทุกคนถึงนิยมฉีด
Filler
Filler คืออะไร?
Filler คือ สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ HA ใช้ในการเติมเต็มชั้นในผิวหนังและใต้ผิวหนัง เพื่อทดแทนโครงสร้างผิวและคอลลาเจนที่ร่างกายผลิตได้น้อยลง เมื่ออายุมากขึ้น ช่วยลดริ้วรอยร่องลึก ให้ผิวหน้าเรียบเนียนมากขึ้น กระชับผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวดูเปล่งปลั่ง ชะลอริ้วรอย ให้ผิวอ่อนเยาว์ ดูหน้าเด็กลง และยังช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน โดยที่ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
Filler Restylane เติมจุดไหน ย้อยวัยหน้าเด็กลงได้บ้าง?
- Filler ใต้ตา
- ใช้ Filler Restylane Perlane Lyft เติมใต้ตาชั้นลึก คาง หรือแก้มส้ม
- ใช้ Filler Restylane Vital Light เก็บรายละเอียดบริเวณผิวชั้นตื้น เช่น ผิวใต้ตา ช่วยลดความหมองคล้ำใต้ตา ให้ดวงตาดูสดใส อ่อนกว่าวัย
- Filler ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
- ใช้ Filler Restylane Defyne เติมบริเวณ Mid-Face หน้าแก้ม ร่องน้ำหมาก เติมเต็มผิวในส่วนที่กระดูกยุบตัวลงไป จนเกิดร่องลึกได้
- ใช้ Filler Restylane Refyne แก้ริ้วรอยร่องลึกจากการยิ้ม เช่น ร่องแก้ม มุมปาก
- ใช้ Filler Restylane Lidocaine แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องแก้มตื้น
- Filler ปาก
- ใช้ Filler Restylane Kysse เติมเต็มริมฝีปาก เติมความชุ่มชื้น ให้ริมฝีปากโดยเฉพาะ ช่วยให้ปากอิ่มเอิบ ไม่มีริ้วรอย ช่วยให้ดูหน้าเด็กลง
Filler Neuramis ควรฉีดตรงไหน? ผลลัพธ์หน้าเด็ก ดูอ่อนกว่าวัย
- Filler Neuramis รุ่น Deep Lidocaine
- Filler ใต้ตา ลดความคล้ำใต้ตา แก้ใต้ตาลึก
- ฉีดแก้มส้ม ใบหน้าสดใส ดูเด็กลง
- Filler ปาก เพิ่มความอวบอิ่ม ชุ่มชื้น
- ฉีดฟิลเลอร์คาง เพิ่มวอลุ่ม แก้คางสั้น คางตัด คางถอย ช่วยให้ใบหน้าเรียวสวย ได้สัดส่วน
- Filler Neuramis รุ่น Volume Lidocaine
- เติมขมับ แก้ขมับตอบ ปรับรูปหน้าดูเรียวสมส่วน
- เติมร่องลึก เช่น ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
- ปรับมุมกราม ให้หน้าเรียว ดูละมุนขึ้น
- กำจัดริ้วรอยต่างๆ ทั่วใบหน้า
รีวิว ฟิลเลอร์ เติมเต็มความสวย ดูอ่อนกว่าวัย ที่ Blossom Clinic
ฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่?
ติดตามราคาโปรโมชั่น ของโปรแกรม ฟิลเลอร์ ราคาดี สุดคุ้มค่า ที่หน้า Promotions ของ Blossom Clinic ได้ทุกเดือน
ฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ เติมฟิลเลอร์?
เลือกหัตถการย้อนวัยหน้าเด็กที่ใช่ ไม่ว่าจะเป็น Ultraformer III Sculptra B0T0X หรือ Filler แล้วตรงมาให้คุณหมอประเมินโดยตรงได้ที่ Blossom Clinic คลินิกเสริมความงามใกล้ฉัน ปัจจุบันมี 3 สาขา ได้แก่ สาขานครปฐม บริเวณตรงข้าม มหาวิทยาลัยศิลปากร พระราชวังสนามจันทร์ และอยู่ใกล้กับเซ็นทรัลนครปฐม สาขาศาลายา ตรงข้าม มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา และสาขาสเตเดี้ยมวัน เดินทางง่ายใกล้ BTS สนามกีฬาแห่งชาติ
Blossom Clinic Stadium One บลอสซั้มคลินิก สาขาสเตเดี้ยมวัน (BTS สนามกีฬาแห่งชาติ)
Blossom Clinic Nakhonpathom บลอสซั้มคลินิก สาขานครปฐม (คลินิก นครปฐม)
Blossom Clinic Salaya บลอสซั้มคลินิก สาขาศาลายา (คลินิก ศาลายา)