
เทรนด์การปรับรูปหน้า ด้วยโปรแกรม Filler และโปรแกรม Botox
การปรับรูปหน้า หรือการฉีดหน้าเรียว ด้วยการใช้โปรแกรม Botox และโปรแกรม Filler เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะไม่ต้องผ่าตัด เจ็บน้อย และเห็นผลรวดเร็ว เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวกระชับ ลดริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก หรือฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ การฉีดหน้าเรียว ด้วยโปรแกรม Botox และการเติมเต็มด้วยโปรแกรม Filler จึงกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์หน้าเรียวกระชับขึ้นแบบไม่ต้องพักฟื้น
โปรแกรม Botox คืออะไร? เหมาะกับใคร?
โปรแกรม Botox คือ การฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum toxin) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัว โดยเฉพาะบริเวณกราม หน้าผาก และรอยตีนกา ช่วยให้ริ้วรอยบนใบหน้าจางลง
โปรแกรม Botox ยังสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้นได้ด้วยการฉีดโบลดกราม ซึ่งเหมาะกับคนที่มีกรามใหญ่ หรืออยากให้ใบหน้าดูเรียวสวยขึ้นแบบธรรมชาติ และยังเหมาะสำหรับคนไข้ที่ทำหัตถการดึงหน้า (Face Lift) ดึงคอ (Neck Lift) ที่ต้องการ Maintain ผลลัพธ์ของการยกกระชับหน้าให้ยาวนานมากขึ้น ก็สามารถให้โปรแกรม Botox เป็นตัวช่วยยืดอายุของผลลัพธ์ให้ผิวหน้าเรียบเนียน ลดริ้วรอย คุณภาพผิวดียิ่งขึั้นได้
การฉีดโบ (BOTULINUM TOXIN) คืออะไร
ทำไมทุกคนถึงนิยมฉีด
อ่านเพิ่มเติม พร้อมดูรีวิว
โปรแกรม Botox ที่ได้รับความนิยมและมีคุณภาพสูง ได้แก่ โปรแกรม Botox Allergan จากอเมริกา โปรแกรม Botox Nabota จากเกาหลี และโปรแกรม Botox Xeomin จากเยอรมัน ซึ่งแต่ละยี่ห้อมีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูง
จุดเด่นของโปรแกรม Botox แต่ละยี่ห้อที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้
หากคนไข้กำลังพิจารณาว่าโปรแกรม Botox ยี่ห้อไหนดี? โปรแกรมโบท็อก (Botulinum toxin) ไม่ว่าจะเพื่อลดริ้วรอย หรือปรับรูปหน้าให้หน้าเรียวขึ้น การเลือกยี่ห้อหรือแบรนด์ที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะโปรแกรม Botox แต่ละยี่ห้อ มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปตามเทคโนโลยีการผลิต ความบริสุทธิ์ และผลลัพธ์ที่ได้ เรามาดูกันว่าบริษัทผู้ผลิตแต่ละรายมีจุดเด่นอะไรบ้าง
โปรแกรม Botox Allergan (สหรัฐอเมริกา)
- มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ลดความเสี่ยงเรื่องอาการดื้อยาในระยะยาว
- ออกฤทธิ์เฉพาะจุด แทบไม่กระจาย จึงเหมาะมากสำหรับการฉีดโบลดริ้วรอย บริเวณที่ต้องใช้ความละเอียดในทำหัตถการ เช่น บริเวณหน้าผาก หางตา หรือระหว่างคิ้ว
- อยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน
- มีความเสถียรสูง ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะการ ฉีดหน้าเรียว ที่ต้องการความเป็นธรรมชาติสูง
โปรแกรม Botox Nabota (เกาหลีใต้)
- จุดเด่นคือ ออกฤทธิ์ไว เริ่มเห็นผลภายใน 3-5 วันหลังฉีด เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลเร็ว
- ช่วยลดริ้วรอยทั้งร่องลึกและร่องตื้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ตัวยาไม่มีสารตกค้าง สลายออกจากร่างกายได้หมด ทำให้ปลอดภัยในระยะยาว
- ความเสี่ยงในการดื้อโบน้อย มีผลลัพธ์ชัดเจน
โปรแกรม Botox Xeomin (เยอรมัน)
- เด่นเรื่องความบริสุทธิ์สูงมาก เพราะผ่านกระบวนการ XTRACT Technology™ ที่ช่วยกำจัดโปรตีนส่วนเกินออก จึงลดความเสี่ยงดื้อโบในระยะยาวได้ดี
- น้ำหนักโมเลกุลเบาที่สุด จึงกระจายตัวได้ดี ฉีดแล้วให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงหรือแข็งทื่อเกินไป
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยเส้นบางๆ หรือริ้วรอยร่องตื้น ให้ใบหน้าดูผ่อนคลายและสดใสขึ้น
อยากทำโปรแกรม Botox เลือกตัวไหนดี?
โปรแกรม Botox Nabota โปรแกรม Botox Allergan และโปรแกรม Botox Xeomin ต่างมีจุดเด่นต่างกัน หากเลือกถูกต้องตามวัตถุประสงค์ ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุด
- หากต้องการลดริ้วรอยบริเวณเล็กๆ อย่างหน้าผาก รอยตีนกา : อาจเลือกโปรแกรม Botox ที่ออกฤทธิ์แม่นยำและกระจายตัวน้อย เช่น Allergan
- หากต้องการผลลัพธ์เร็ว เช่น มีงานด่วน : อาจเลือก Nabota เพราะออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว
- หากต้องการลุคที่ดูละมุน ไม่แข็ง : อาจเลือก Xeomin ซึ่งมีเทคโนโลยีโมเลกุลบริสุทธิ์ กระจายตัวดี
การเลือกใช้โปรแกรม Botox ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งที่ฉีด ขนาดของกล้ามเนื้อ บางเคสมีกล้ามเนื้อกรามหนามาก อาจต้องใช้ปริมาณที่มากขึ้นกว่าคนทั่วไป รวมถึงเทคนิคการฉีด แพทย์ที่มีประสบการณ์สูงจะรู้จุดที่ควรฉีดให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่ผิดรูป ก่อนทำ จึงควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ประเมินรูปหน้า วิเคราะห์ปัญหาผิว และวางแนวทางแก้ไขร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์คนไข้มากที่สุด
โปรแกรม Filler คืออะไร? เหมาะกับบริเวณใดบ้าง?
โปรแกรมฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มในรูปแบบไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ที่ถูกผลิตขึ้นโดยเลียนแบบสาร HA ตามธรรมชาติในร่างกายของคนเรา แต่เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น ร่างกายจะผลิตสาร HA ได้น้อยลง เราจึงใช้การทำโปรแกรมฟิลเลอร์ ช่วยในการเติมเต็มผิวส่วนที่พร่องลงไป เช่น การเติมเต็มใต้ตา ฉีดขมับ ฉีดร่องแก้ม ฉีดคาง ฉีดเติมเต็มริมฝีปาก หรือทำโปรแกรมฟิลเลอร์บริเวณอื่นๆ สามารถช่วยฟื้นฟูผิว คืนความอ่อนเยาว์ และปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเหมาะกับเคสที่เพิ่งทำหัตถการดึงหน้า (Face Lift) ดึงคอ (Neck Lift) ที่ต้องการ Maintain ผลลัพธ์ของการยกกระชับหน้าให้ยาวนานมากขึ้น ก็สามารถให้โปรแกรม Filler เป็นตัวช่วยเพิ่มคุณภาพผิว ให้ผิวกระชับมากขึ้น พร้อมปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนได้
ปรับรูปหน้าด้วยโปรแกรม FILLER
ทำไมโปรแกรมฟิลเลอร์
ถึงฮิตสำหรับคนอยากหน้าเรียว
อ่านเพิ่มเติม พร้อมดูรีวิว
โปรแกรมฟิลเลอร์ยอดนิยมที่มีคุณภาพ ได้แก่ โปรแกรม Filler Restylane และ โปรแกรม Filler Neuramis ซึ่งล้วนเป็นโปรแกรมฟิลเลอร์แท้ ผ่านการรับรองโดย อย. ทำให้มั่นใจได้ในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ยาวนาน
จุดเด่นของโปรแกรม Filler แต่ละยี่ห้อที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้
การเลือก Filler ให้เหมาะกับใบหน้าไม่ใช่แค่เลือกยี่ห้อที่ดังหรือราคาคุ้มค่าเท่านั้น แต่ควรเลือกจากคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ปัญหาและเป้าหมายของเราอย่างแท้จริง ซึ่งปัจจุบันมี Filler Restylane และ Filler Neuramis เป็นแบรนด์ยอดนิยมที่แพทย์เลือกใช้กันอย่างแพร่หลาย เรามาดูจุดเด่นของแต่ละแบรนด์กันเลย
โปรแกรม Filler Restylane
Restylane โปรแกรมฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดนที่ใช้ NASHA Technology ทำให้โปรแกรม Filler ยี่ห้อนี้มีคุณสมบัติเด่นในการยกกระชับ และ OBT Technology ที่โดดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่น คงตัว ช่วยในการปรับรูปหน้าได้ดี
- โปรแกรม Filler แบรนด์ดังจากสวีเดน ผ่านการรับรองจากอย. ไทยและสหรัฐอเมริกา (FDA)
- โดดเด่นเรื่องเทคโนโลยี NASHA™ ที่ช่วยให้โมเลกุลมีความคงตัวสูง อยู่ตัวได้ดี ไม่ไหลย้อยหลังฉีด
- ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการฉีดในจุดที่ต้องการความละเอียด เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา ขมับ
- ช่วยเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ต้องการทำโปรแกรม Filler ใต้ตา หรือบริเวณที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนและปลอดภัยสูง
- ระยะเวลาผลลัพธ์ อยู่ได้ประมาณ 9-12 เดือน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและการดูแลหลังทำ
ตำแหน่งฮิต ฉีดแล้วช่วยเติมเต็ม ปรับรูปหน้าสวยขึ้น
- Restylane Defyne เติมเต็มใบหน้าส่วนกลาง (Mid-Face) บริเวณหน้าแก้ม ร่องน้ำหมาก เสริมกระดูกที่ยุบตัวลงตามวัย ช่วยให้ผิวบริเวณแก้มดูเต็ม อิ่มฟู ดูอ่อนเยาว์ ลดร่องน้ำหมาก ใบหน้าดูกระชับและได้สัดส่วนมากขึ้น
- Restylane Perlane Lyft เติมเต็มใต้ตา แก้ใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ ปรับผิวแก้มส้ม ใต้ตาดูเต็ม ผิวใต้ตาดูยกกระชับ ไม่คล้ำลึก ดูสดใสมากขึ้น ที่สำคัญยังเหมาะกับการใช้เติมคาง แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางไม่สมส่วน ให้รูปหน้าดูเรียวสวย โดยที่ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
- Restelane Kysse เติมเต็มริมฝีปาก ด้วยโปรแกรม Filler ปาก เติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก ปรับให้ใบหน้าดูสมส่วนมากขึ้น
โปรแกรม Filler Neuramis
- โปรแกรม Filler จากประเทศเกาหลี ที่ได้รับความนิยมสูง ราคาที่เข้าถึงง่ายและได้คุณภาพมาตรฐาน
- ใช้ SHAPE Technology ที่ช่วยให้เนื้อเจลมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการฉีดในบริเวณที่มีการขยับบ่อย เช่น ริมฝีปาก คาง
- มีความอ่อนโยน เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบาง หรือแพ้ง่าย
- ช่วยปรับรูปหน้า เติมเต็มวอลลุ่มได้ดี ไม่เป็นก้อน ให้สัมผัสนุ่มเป็นธรรมชาติ
- อยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำโปรแกรมฟิลเลอร์ หรือทดลองใช้ครั้งแรก
ฉีดรุ่นไหน ตรงไหนดี
- Neuramis Deep “โปรแกรมฟิลเลอร์กล่องดำ” เติมเต็มร่องลึกได้หลากหลายจุด Neuramis รุ่น Deep หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “โปรแกรมฟิลเลอร์กล่องดำ” เป็นโปรแกรมฟิลเลอร์รุ่นแรกจาก Neuramis ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย
- ไม่มีส่วนผสมของยาชา
- เนื้อเจลมีความหนืดระดับกลาง อิ่มฟูและขึ้นรูปได้ง่าย
- เหมาะกับการเติมเต็ม ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ขมับ และ ร่องลึกใต้ตา
- ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน
- Neuramis Volume Lidocaine “โปรแกรมฟิลเลอร์กล่องทอง” เนื้อแน่น ยืดหยุ่นสูง
Neuramis รุ่น Volume Lidocaine เป็นรุ่นที่มีเนื้อแน่นที่สุดในตระกูล Neuramis - มาพร้อมยาชา Lidocaine ช่วยลดความเจ็บขณะฉีด
- มีความยืดหยุ่นสูง สามารถกลืนไปกับผิวได้ดี และขึ้นรูปได้สวยงาม
- เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณที่ต้องการวอลลุ่มมากหรือเป็นชั้นลึก เช่น ร่องลึกบริเวณใต้ตา ขมับตอบ และกรอบหน้า
- อยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังฉีด
อยากทำโปรแกรมฟิลเลอร์ เลือกตัวไหนดี?
- ใต้ตา ร่องใต้ตา : แนะนำใช้โปรแกรม Filler Neuramis Deep เนื้อแข็งปานกลาง ไม่เป็นก้อน กลืนไปกับผิวได้ดี เหมาะกับผิวบริเวณที่บอบบางอย่างใต้ตา เติมแก้มส้มได้ด้วย
- ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก : แนะนำใช้โปรแกรม Filler Neuramis Deep หรือ Restylane Lidocaine เพื่อเติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้นทันที
- ขมับตอบ คางสั้น หน้าไม่ได้รูป : แนะนำใช้โปรแกรม Filler Neuramis Deep หรือ Restylane Perlane Lyft เนื้อแน่น ขึ้นทรงได้ดี ปรับสมดุลรูปหน้าให้ได้สัดส่วน ให้ผลลัพธ์ดูธรรมชาติ
- โปรแกรม Filler ปาก ปรับทรงปาก : แนะนำใช้โปรแกรม Filler Restylane Kysse หรือ Neuramis Deep Lidocaine เนื้อนุ่ม ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน ทรงสวย ดูเป็นธรรมชาติ
ทำโปรแกรมฟิลเลอร์อย่างไร ให้ “สวยแบบพอดี ไม่เวอร์ ไม่ล้น”
การทำโปรแกรมฟิลเลอร์ ให้ออกมาดูสวยธรรมชาติ ไม่ล้นหรือแข็งเกินไป ต้องอาศัยเทคนิคและความชำนาญของแพทย์ร่วมกับการวางแผนที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือ ฉีดแล้วหน้าบวม ดูล้น ซึ่งมักเกิดจากการฉีดในปริมาณที่มากเกินไป (Overfilled) โดยไม่ประเมินโครงสร้างหน้าอย่างละเอียดก่อน
แนวทางที่แพทย์ Blossom Clinic แนะนำ :
- ปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์ปัญหาและคำนวณปริมาณที่ควรใช้อย่างละเอียด
- Customized Techniques ออกแบบการเติมเต็มเฉพาะจุด ตามความต้องการและเหมาะกับแต่ละบุคคล
- ใช้ปริมาณฟิลเลอร์อย่างเหมาะสม เช่น 1-2 cc ต่อจุด ขึ้นอยู่กับปัญหา
- แพทย์ประเมินและออกแบบให้เฉพาะบุคคล ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยแบบพอดี ดูดีแบบไม่หลอกตา และดูธรรมชาติ
เทียบชัด! โปรแกรม Botox VS โปรแกรม Filler
Program Filler or Botox แก้ปัญหาใบหน้าให้ตรงจุด ด้วยโปรแกรมที่ตอบโจทย์
- ปัญหา : ริ้วรอยจากการขมวดคิ้ว หน้าผากย่น
แนะนำ : โปรแกรม Botox ช่วยลดริ้วรอย จากการแสดงสีหน้า หรือการขยับกล้ามเนื้อใบหน้า - ปัญหา : ใต้ตาคล้ำ เบ้าตาลึก
แนะนำ : โปรแกรม Filler ใต้ตา ช่วยเติมเต็มใต้ตา ให้ตาดูสดใส ไม่โทรม - ปัญหา : ใบหน้าตอบลง จากอายุที่เพิ่มขึ้น
แนะนำ : โปรแกรม Filler เพื่อเติมเต็มขมับ เติมแก้ม ให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ หน้าดูเรียวกระชับมากขึ้น - ปัญหา : ร่องแก้มลึก
แนะนำ : โปรแกรม Filler ร่องแก้ม ช่วยลดร่องลึก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น - ปัญหา : กล้ามเนื้อกรามใหญ่ ทำให้หน้าดูไม่เรียว
แนะนำ : ฉีดโบลดกราม ช่วยให้กล้ามเนื้อกรามเล็กลง ใบหน้าดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ - ปัญหา : หน้าไม่เรียว คางสั้น คางถอย
แนะนำ : โปรแกรม Filler คาง หน้าเรียว ได้สัดส่วนมากขึ้น
ควรเลือกโปรแกรมไหนก่อนกัน?
โปรแกรมฟิลเลอร์ (Filler) และโปรแกรมโบท็อกซ์ (Botox) สามารถทำพร้อมกันได้ ซึ่งลำดับการทำนั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อประเมินและรับคำแนะนำการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
เตรียมตัวอย่างไร? ก่อนรับบริการ
เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนทำโปรแกรม Botox
- ควรเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยฟกช้ำหลังทำ
- ควรวางแผนร่วมกับแพทย์ผิวหนังและรูปปรับหน้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ปัญหามากที่สุด
- ควรงดทานยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS (Ibuprofen, Naproxen, Motrin) เพื่อป้องกันการเกิดอาการเขียวช้ำหลังทำหัตถการ
เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนทำโปรแกรม Filler
- ลดความเสี่ยงของการเกิดรอยฟกช้ำหลังทำ ด้วยการเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ
- เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ปัญหามากที่สุด คนไข้ควรวางแผนร่วมกับแพทย์ผิวหนังและรูปปรับหน้า
- ป้องกันการเกิดอาการเขียวช้ำหลังทำหัตถการ ควรงดทานยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS (Ibuprofen, Naproxen, Motrin)
ดูแลตัวเองหลังทำอย่างไร? ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
ควรดูแลตัวเองอย่างไร? หลังทำโปรแกรม Botox
หลังทำโปรแกรม Botox แล้ว การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อผลลัพธ์ที่ได้ เพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้เต็มที่และอยู่ได้นานยิ่งขึ้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
- หลีกเลี่ยงการนอนราบใน 4 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันไม่ให้ Botulinum toxin ไหลหรือกระจายไปยังกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการ ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้
- งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 วัน เพราะแอลกอฮอล์อาจทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น ส่งผลให้เกิดรอยช้ำหรือบวมหลังฉีดได้ง่าย
- ขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเบา ๆ ภายใน 1-2 ชั่วโมงแรก เช่น ยิ้ม ยักคิ้ว หรือขมวดคิ้วเบาๆ ช่วยให้ตัวยาซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อได้ดีขึ้น และเห็นผลเร็วขึ้น
- งดทำเลเซอร์หรือหัตถการที่ใช้ความร้อนสูง เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ เป็นเวลา 4 สัปดาห์ เพราะความร้อนสามารถเร่งการสลายของตัวยาได้ ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักใน 4 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เพราะการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงอาจทำให้ตัวยากระจายผิดตำแหน่งได้
- งดนวด กดแรง หรือใช้แรงกดบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการกระจายของตัวยาไปยังจุดอื่น และลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง
ควรดูแลตัวเองอย่างไร? หลังทำโปรแกรม Filler
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงผลข้างเคียงได้ดี โดยมีแนวทางการดูแลตัวเองที่แพทย์ผิวหนัง Blossom Clinic แนะนำดังนี้
- ดื่มน้ำมากๆ ประมาณ 1.5-2 ลิตรต่อวัน เพราะโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปมักเป็นสารประเภท Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งมีคุณสมบัติดูดซับน้ำ การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ตัวยา HA อิ่มฟู กระจายตัวดีขึ้น ส่งผลให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและคงตัวได้นานขึ้น
- งดนวดแรงๆ หรือกดทับบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้ตัวยาเคลื่อนที่ได้
- หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือนอนทับจุดที่ฉีดในช่วง 3 วันแรก เพื่อป้องกันตัวยาเคลื่อนจากตำแหน่งที่แพทย์วางไว้ อาจใช้วิธีนอนหงายและหนุนหมอนสูงเล็กน้อย จะช่วยป้องกันอาการบวมได้ด้วย
- งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 วัน เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้หลอดเลือดขยาย อาจเกิดรอยช้ำหรือบวมได้ง่าย
- งดทำเลเซอร์ หรือหัตถการที่ใช้ความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ เป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพราะความร้อนสามารถเร่งการสลายของตัวยา อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่คงทน หรือเกิดการบวมแดงในบางเคส
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ใน 4 ชั่วโมงแรก เพราะการออกกำลังกายอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น เพิ่มโอกาสเกิดรอยช้ำ หรือตัวยาเคลื่อนจากตำแหน่งเดิมได้
รับบริการโปรแกรม Botox & Filler ที่ไหนดี?
การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการทำโปรแกรม Botox และโปรแกรม Filler ที่มีผลลัพธ์ที่ดีนั้น ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ผิวหนัง รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์แท้ มีใบรับรองมาตรฐานจาก อย. ตัวอย่างเช่น Blossom Clinic ที่มีแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางให้คำปรึกษาและประเมินปัญหาอย่างละเอียด พร้อมวางแผนการ ฉีดหน้าเรียว และปรับรูปหน้าอย่างเหมาะสมกับแต่ละบุคคล ด้วยผลิตภัณฑ์แท้และมาตรฐานความปลอดภัยสูง
แพทย์ Blossom Clinic เชื่อว่า “ความสวยที่ดีที่สุด ต้องอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย เป็นธรรมชาติ และเหมาะกับคนไข้แต่ละเคสมากที่สุด” แพทย์จึงให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอน ตั้งแต่การพูดคุย ให้คำปรึกษา ไปจนถึงการวางแผนการรักษาอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความใส่ใจและจริงใจ
ก่อนเริ่มหัตถการทุกครั้ง แพทย์จะใช้เวลาในการรับฟังความต้องการของคนไข้อย่างละเอียด พร้อมอธิบายอย่างชัดเจนถึงเป้าหมายของการทำหัตถการนั้นๆ ว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง จากนั้นจึงแนะนำหัตถการที่เหมาะสมกับลักษณะปัญหาและความต้องการของคนไข้แต่ละเคสอย่างแท้จริง ร่วมกับการวางแผนการรักษาและออกแบบเฉพาะบุคคล (Customized Techniques) เพื่อให้ผลลัพธ์ดูละมุน เป็นธรรมชาติ และให้คนไข้เป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด พร้อมการให้ข้อมูลและความรู้ประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้คนไข้เข้าใจและมั่นใจมากที่สุดก่อนเข้ารับบริการ Blossom Clinic ปัจจุบันมี 3 สาขา ได้แก่
- สาขานครปฐม : บริเวณตรงข้าม มหาวิทยาลัยศิลปากร พระราชวังสนามจันทร์ และอยู่ใกล้กับเซ็นทรัลนครปฐม
- สาขาศาลายา : ตรงข้าม มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหา คลินิกรักษาสิว ศาลายา หรือ คลินิกเลเซอร์ ใกล้มหาวิทยาลัย
- สาขาสเตเดี้ยมวัน (Stadium One) : ใกล้ BTS สนามกีฬาแห่งชาติ เดินทางสะดวก
หากต้องการนัดหมายหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่
Blossom Clinic Stadium One บลอสซั้มคลินิก สาขาสเตเดี้ยมวัน (BTS สนามกีฬาแห่งชาติ)
- Call : 02-460-9210 กด 2
- Map : https://goo.gl/maps/SPyRJbpCxfH5NtUr9
Blossom Clinic Nakhonpathom บลอสซั้มคลินิก สาขานครปฐม (คลินิก นครปฐม)
- Call : 02-460-9210 กด 3
- Map : https://maps.app.goo.gl/kWuqGp4mthi12E657
Blossom Clinic Salaya บลอสซั้มคลินิก สาขาศาลายา (คลินิก ศาลายา)
- Call : 02-460-9210 กด 4
- Map : https://goo.gl/maps/bUw5df2g9oASZQk76
รวมคำถามยอดฮิต ของโปรแกรม Botox & โปรแกรม Filler
Q : โปรแกรม Botox คืออะไร ต่างจากโปรแกรม Filler อย่างไร?
โปรแกรม Botox คือสารที่ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ใช้สำหรับการลดริ้วรอย ลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ฉีดหน้าเรียว ลิฟกรอบหน้า ส่วนโปรแกรม Filler คือสารเติมเต็มที่ช่วยเพิ่มวอลลุ่ม เติมเต็มร่องลึก และปรับรูปหน้าให้ดูเรียว ได้สัดส่วนมากขึ้น
Q : ฉีดโบกี่วันเห็นผล?
โดยปกติจะเริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วัน และผลลัพธ์จะชัดเจนที่สุดประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีด
Q : โปรแกรมฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน?
โปรแกรมฟิลเลอร์ทั่วไป จะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับปัญหาและโครงสร้างผิวของคนไข้ รวมถึงยี่ห้อและบริเวณที่ฉีด ก็ส่งผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์เช่นกัน
Q : ฉีดโบลดกราม ช่วยให้หน้าเรียวได้ จริงหรือไม่?
การฉีดโบลดกราม ช่วยให้หน้าเรียวได้ เพราะโปรแกรม Botox จะส่งตัวยาเข้าไปลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง ใบหน้าเล็กลง โดยที่ผลลัพธ์ดูธรรมชาติ
Q : ทำโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร?
การทำโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องอาศัยความละเอียดในการวิเคราะห์ปัญหา การวางแผน การออกแบบ การประเมินปริมาณตัวยาที่ใช้อย่างพอดี ไม่ล้นจนเกินไป รวมถึงเทคนิคการฉีดที่ดี และความประณีตในการทำหัตถการ เนื่องจากผิวใต้ตาเป็นบริเวณที่บอบบาง และมีเส้นเลือดอยู่ใต้ผิวหนังเป็นจำนวนมาก การเติมเต็มใต้ตาแล้วเกิดเป็นก้อน อาจเกิดจากเทคนิคการฉีดลึกหรือไม่สม่ำเสมอ การใช้ตัวยาที่ไม่มีคุณภาพ หรือการฉีดในปริมาณมากเกินไป ดังนั้นหากคนไข้ต้องการทำโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา จึงควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการประเมินอย่างละเอียดก่อนฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Q : โปรแกรมฟิลเลอร์ 1 ซีซี ทำอะไรได้บ้าง?
สามารถเติมเต็มร่องลึกเล็กๆ เช่น ใต้ตา หรือเพิ่มความคมชัดบริเวณคาง ปรับรูปทรงริมฝีปากให้ได้สัดส่วนขึ้น เติมแก้มส้ม และเติมร่องแก้ม ในเคสที่คนไข้ ยังไม่มีปัญหาร่องลึกมาก แนะนำให้คนไข้ปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อประเมินบริเวณที่ควรฉีด และปริมาณ cc ที่เหมาะสม
Q : ฉีดหน้าเรียว ควรเลือกโปรแกรมไหนดี?
หากคนไข้มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ควรเริ่มด้วยโปรแกรม Botox เพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อกราม หากต้องการเติมเต็มให้หน้าเรียวขึ้น ควรทำโปรแกรมฟิลเลอร์ เช่น เติมเต็มบริเวณโหนกแก้ม หรือเติมเต็มคาง เพื่อปรับรูปหน้าเรียวร่วมด้วย
Q : โปรแกรม Botox ดื้อยาเกิดจากอะไร?
อาจเกิดจากการใช้บ่อยเกินไป หรือใช้ยี่ห้อที่มีโปรตีนปนเปื้อนมาก ดังนั้นแล้ว การเลือกใช้ยี่ห้อที่มีความบริสุทธิ์สูง เช่น Xeomin สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะดื้อยา หรือดื้อโบนี้ได้
Q : หลังฉีดสามารถแต่งหน้าได้ไหม?
ควรรออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนแต่งหน้า เพื่อให้ตัวยาที่ฉีดเข้าที่และลดความเสี่ยงของภาวะติดเชื้อ